กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ออกโรงออกเตือนการลงทุนในคริปโตเคอร์เรนซี ( cryptocurrencies) ว่ายังน่ากังวลและไม่น่าวางใจสำหรับนักลงทุน แม้ว่าอุตสาหกรรมดังกล่าวจะเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ยังมีช่องโหว่ของกฎเกณฑ์ในการกำกับดูแลที่เข้มงวด บริษัทหรือองค์กรที่เข้ามาซื้อขายแลกเปลี่ยนส่วนใหญ่ขาดแนวทางปฏิบัติงานที่ชัดเจน ไม่โปร่งใส และช่องว่างทางกฎหมายบางส่วนทำให้คริปโตเคอร์เรนซีเสี่ยงต่อการเป็นช่องทางเลี่ยงภาษี คอรัปชั่น และแหล่งฟอกเงิน
สำนักข่าว CNBC รายงานถึงถ้อยแถลงของนายอีวาน ปาปาจอร์จิโอ รองหัวหน้าแผนกของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF ) ระบุว่าจนถึงเดือนกันยายน 2564 มูลค่าตลาดรวมของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี พุ่งทะลุกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ โดยเพิ่มขึ้น 10 เท่า เมื่อเทียบจากต้นปี 2563
“แม้ว่ามูลค่าสินทรัพย์คริปโตเคอร์เรนซี ที่ผ่านมาจะแสดงให้เห็นถึงการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างมาก แต่ต้องยอมรับว่าปัญหาหนึ่งที่ IMF พยายามเน้นคือนักลงทุน และสถาบันการเงินจำนวนมาก ที่ซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลดังกล่าวเนื่องจากในความเป็นจริง ผู้ประกอบการในระบบอุตสาหกรรมต่างๆนั้น ยังขาดแนวทางปฏิบัติการที่เข้มงวด การกำกับดูแลที่มีชัดเจนซึ่งส่งผลต่อความเสี่ยงในการลงทุน”
ยิ่งไปกว่านั้น พื้นที่สีเทาของตลาดคริปโตเคอเรนซียังส่งผลให้เกิดช่องว่างของข้อมูล (Data Gap) ซึ่งจะนำไปสู่การเปิดโอกาสให้กลุ่มมิจฉาชีพเข้ามาฟอกเงิน หรือใช้เป็นเส้นทางหลีกเลี่ยงกฎหมายเพื่อส่งเงินสนับสนุนกลุ่มก่อการร้ายในประเทศต่างๆ ทั่วโลก
พร้อมกันนี้ IMF ยังได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเรียกร้องให้มีการยกระดับปรับปรุงแนวทางการลงทุนในตลาดอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซีให้เป็นรูปธรรมชัดเจน เพื่อทำให้การลงทุนมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น โดยยอมรับว่า ประเด็นคริปโตเป็นประเด็นร้อนที่ยังหาข้อสรุปที่ลงตัวไม่ได้ เพราะฝ่ายที่สนับสนุนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่าคริปโตคือโลกอนาคตที่กำลังเดินทางมาถึง ขณะที่ฝ่ายคัดค้าน ยังคงอดกังขากับความเสี่ยงที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตเคอเรนซี