สัปดาห์หน้า กสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวเงินบาทที่ 32.70-33.40บาท/ดอลลาร์

23 ม.ค. 2565 | 08:12 น.
อัปเดตล่าสุด :23 ม.ค. 2565 | 15:30 น.

SETสัปดาห์หน้าแนวรับที่ 1,640 และ 1,625 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,675 จุด ตามลำดับ KBANKชี้ตลาดรอสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของเฟดจากการประชุม FOMC วันที่ 25-26 ม.ค. 2565

 ธนาคารกสิกรไทยมองสัปดาห์หน้าระหว่างวันที่ 24-28มกราคม 2565 กรอบการเคลื่อนไหวของเงินบาทที่ 32.70-33.40 บาทต่อดอลลาร์ฯ ขณะที่ศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่

ผลการประชุม FOMC  ทิศทางเงินทุนของต่างชาติ  สถานการณ์โควิด-19 ขณะที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต/ภาคบริการ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนม.ค. ยอดขายบ้านใหม่ ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน ยอดทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย รายได้/รายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE และ Core PCE Price Index เดือนธ.ค. ดัชนีราคาบ้านเดือนพ.ย. จีดีพีไตรมาส 4/64 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ นอกจากนี้ตลาดยังรอติดตามกำไรภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. ของจีนด้วยเช่นกัน

 

 

สำหรับในรอบสัปดาห์ 17-21มกราคมที่ผ่านมา   

  เงินบาททยอยแข็งค่าขึ้น โดยแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบ 2 เดือนที่ 32.82 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในระหว่างสัปดาห์ โดยเงินบาทแข็งค่าสอดคล้องกับทิศทางค่าเงินหยวน ประกอบกับยังมีแรงหนุนเพิ่มเติมจากสถานะซื้อสุทธิพันธบัตรไทยของนักลงทุนต่างชาติ

 

อย่างไรก็ดี เงินดอลลาร์ฯ ทยอยฟื้นตัวกลับมาได้บางส่วนตามแรงซื้อคืนของนักลงทุนในช่วงปลายสัปดาห์ ขณะที่ตลาดรอติดตามสัญญาณการดำเนินนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ จากการประชุม FOMC วันที่ 25-26 ม.ค. 2565 ซึ่งเมื่อวันศุกร์ (21 ม.ค.) เงินบาทปิดตลาดในประเทศที่ 32.90 เทียบกับระดับ 33.22 บาทต่อดอลลาร์ฯ ในวันศุกร์ก่อนหน้า (14 ม.ค.)

สัปดาห์หน้า  กสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวเงินบาทที่ 32.70-33.40บาท/ดอลลาร์

 

บริษัทหลักทรัพย์กสิกรไทย จำกัด(บล.) มองว่า ดัชนีหุ้นไทยมีแนวรับที่ 1,640 และ 1,625 จุด ขณะที่แนวต้านอยู่ที่ 1,665 และ 1,675 จุด ตามลำดับ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยประเมินปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม ได้แก่ การประชุมเฟด (25-26 ม.ค.) สถานการณ์โควิด-19 ทิศทางเงินลงทุนของนักลงทุนต่างชาติ ผลประกอบการไตรมาส 4/64 ของบจ.ไทย

 

ตลอดจนประเด็นการเมืองในประเทศ ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ตัวเลขจีดีพีไตรมาส 4/64 ยอดสั่งซื้อสินค้าคงทน รายได้และรายจ่ายส่วนบุคคล และอัตราเงินเฟ้อที่วัดจาก PCE/Core PCE Price Index เดือนธ.ค. 64 รวมถึงข้อมูล PMI (เบื้องต้น) เดือนม.ค.65

สัปดาห์หน้า  กสิกรไทยมองกรอบเคลื่อนไหวเงินบาทที่ 32.70-33.40บาท/ดอลลาร์

ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศอื่นๆ ได้แก่ ข้อมูล PMI (เบื้องต้น) เดือนม.ค.65 ของญี่ปุ่นและยูโรโซน รวมถึงกำไรบริษัทภาคอุตสาหกรรมเดือนธ.ค. 64 ของจีน  โดยดัชนี SET เมื่อวันที่ 21ม.ค. ปิดที่ระดับ 1,652.73 จุด ลดลง 1.19% จากสัปดาห์ก่อน ขณะที่มูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 90,965.01 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.24% จากสัปดาห์ก่อน ส่วนดัชนี mai ลดลง 2.99% มาปิดที่ 661.85 จุด