เมื่อต้นปี 2565 ที่ผ่านมา มีการปรับเพิ่มราคาสินค้าบริโภคหลายรายการ จนเป็นประเด็นที่ประชาชนต่างให้ความสนใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากมีผลกระทบหลายส่วน เช่น ต้นทุนของผู้ประกอบการ และค่าครองชีพประชาชน
บทความนี้จึงขอนำเสนอกลไกการส่งผ่านราคาวัตถุดิบไปยังราคาสินค้าผู้บริโภคว่าเป็นอย่างไร และมีแนวทางใดที่จะช่วยสร้างความสมดุลการส่งผ่านนี้ให้กระทบต่อผู้ประกอบการและผู้บริโภคได้อย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับ การฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยในปีนี้
การสร้างความสมดุลในการเพิ่มราคาสินค้า ปัจจัยที่สำคัญคือ การส่งผ่านราคาวัตถุดิบของผู้ประกอบการไปยังราคาสินค้าผู้บริโภคเป็นกลไกที่เร่งให้เกิดเงินเฟ้อขึ้น ซึ่งได้จากการนำข้อมูลราคาสินค้าที่ใช้ในชีวิตประจำวัน เช่น สินค้าหมวดอาหาร มาใช้ในการวิเคราะห์ต้นทุนผู้ประกอบการและค่าครองชีพประชาชน ซึ่งจากข้อมูล พบว่า มี 2 เหตุการณ์ที่ราคาสินค้าวัตถุดิบอาหารฝั่งผู้ผลิตเพิ่มขึ้น นำไปสู่การปรับราคาสินค้าอาหารฝั่งผู้บริโภค คือ
หากพิจารณาการส่งผ่านราคาจากสองเหตุการณ์ดังกล่าว จะพบการทำงานของกลไกที่ก่อให้เงินเฟ้อ 2 รอบ กล่าวคือ เงินเฟ้อรอบที่ 1 “สาเหตุจากราคาวัตถุดิบสูงขึ้นนำไปสู่การขึ้นราคาสินค้าฝั่งผู้บริโภค” ผลของเงินเฟ้อรอบที่ 1 ก่อให้เกิดภาระค่าครองชีพที่สูงขึ้น เพราะรายได้ผู้บริโภคเท่าเดิมแต่ซื้อของแพงขึ้น จึงเกิดเป็นเงินเฟ้อรอบที่ 2 “สาเหตุจากราคาสินค้าผู้บริโภคที่สูงขึ้นนำไปสู่การปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ” เพื่อรักษาค่าครองชีพของประชาชนจากราคาสินค้าที่ปรับสูงขึ้น
ทั้งนี้กลไกการส่งผ่านราคาวัตถุดิบไปยังราคาสินค้าผู้บริโภคดังที่กล่าวมาเป็นเงินเฟ้อแบบต้นทุนที่เพิ่มขึ้น (Cost - Push Inflation) ซึ่งจะกลายเป็นปัญหาต่อเศรษฐกิจภาพรวมมากขึ้น
จากความเข้าใจในเรื่องกลไกที่จะนำไปสู่การปรับขึ้นของเงินเฟ้อ 2 รอบข้างต้น สิ่งสำคัญที่จะช่วยสร้างความสมดุลการปรับราคาสินค้าให้ผู้ประกอบการและผู้บริโภคไม่ให้เดือดร้อนมากนัก ซึ่งอาจใช้การดำเนินนโยบายของภาครัฐเข้าช่วย ผ่านการประเมินแนวโน้มการขึ้นราคาสินค้าให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นค่าจ้าง เพื่อรักษาระดับค่าครองชีพ
โดยใช้มาตรการอย่างรอบคอบและถูกจังหวะ ได้แก่ การควบคุมราคาสินค้า การบรรเทาความเดือดร้อนในยามที่ราคาสินค้าปรับขึ้นชั่วคราว หรือการพิจารณาปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ ฯลฯ เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น ขอยกตัวอย่าง จากเหตุการณ์ในปี 2564-65 นี้ ราคาสินค้าเกษตรที่เป็นวัตถุดิบของผู้ผลิตสูงขึ้น ดังนั้น การสร้างกลไกสมดุลการส่งผ่านราคาสินค้า อาจวางแนวทางและวางแผนได้ดังนี้
จะเห็นว่า การสร้างความสมดุลของการส่งผ่านเงินเฟ้อ ต้องกระทำอย่างรอบคอบ โดยประเมินแนวโน้มราคาสินค้าวัตถุดิบและระยะเวลาการส่งผ่านการปรับขึ้นราคาที่เหมาะสม และใช้มาตรการหรือนโยบายเป็นเครื่องมือบรรเทาหรือคลี่คลายในการแก้ปัญหาราคาวัตถุดิบหรือราคาสินค้า
ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมราคาสินค้า การเพิ่มอุปทานสินค้าจนถึงการปรับเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ผลิตและผู้บริโภคให้น้อยที่สุด และไม่ก่อให้เกิดเงินเฟ้อสูงเกินไปจนกระทบต่อเศรษฐกิจในวงกว้าง
หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษบกิจ ปีที่ 41 ฉบับที่ 3,757 วันที่ 13 - 16 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2565