นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัดเปิดเผยว่า บริษัทฯ มีมุมมองเชิงบวกต่อการลงทุนในตลาดหุ้นจีน A-Shares จาก Valuation ปัจจุบันที่ได้ปรับตัวลงมาอยู่ในระดับน่าสนใจเหมาะแก่การเข้าลงทุนเพื่อโอกาสการลงทุน รวมถึงเป็นตลาดที่มีปัจจัยสนับสนุนในระยะยาวจากการที่ดัชนี MSCI ได้เพิ่ม China A-Shares ในดัชนีตลาดเกิดใหม่
รวมถึงดัชนีหุ้นอื่นๆ ทำให้ Fund Flow จากต่างชาติไหลสู่ตลาด A-Shares เพิ่มมากขึ้น บริษัทฯจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดไทยพาณิชย์หุ้นจีนเอแชร์ แอคทีฟ เพื่อการเลี้ยงชีพ (SCBRMASHARES) เพื่อเป็นทางเลือกให้นักลงทุนที่ต้องการสิทธิประโยชน์ทางภาษี และต้องการลงทุนในตลาดหุ้นจีน A-Shares โดยเริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 14 - 21 กุมภาพันธ์ 2565 ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท ซึ่งนักลงทุนสามารถซื้อได้ในทุกช่องทางรวมถึงผู้สนับสนุนการขายทุกราย
นอกจากนั้น บริษัทฯ ยังได้จัดโปรโมชั่นพิเศษสำหรับนักลงทุนที่ลงทุนในช่วง IPO จะได้รับ Fund Back มูลค่าสูงสุด 1,000 บาท (ตามเงื่อนไขที่กำหนด) โดยมอบเป็นหน่วยลงทุนกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้น (SCBSFF) ที่มีนโยบายลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตรรัฐบาล ตราสารธนาคารพาณิชย์ และหุ้นกู้ ทั้งนี้ สามารถลงทุนผ่านผู้สนับสนุนการขายทุกราย หรือลงทุนด้วยตนเองผ่านแอปพลิเคชัน SCB Easy และ SCBAM Fund Click สำหรับผู้ถือบัตรเครดิต SCB สามารถชำระมูลค่าลงทุนผ่านบัตรได้ที่ธนาคารไทยพาณิชย์ทุกสาขา และแอปพลิเคชัน SCB Easy
“จีนนับว่าเป็นประเทศที่กำลังขับเคลื่อนสู่เศรษฐกิจใหม่ที่อาศัยการบริโภคภายในประเทศ พร้อมเติบโตไปตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ โดยในช่วงที่ผ่านมาตลาดมีความผัวผวนค่อนข้างมากจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลงกว่าคาดจากมาตรการควบคุมการระบาดของ Covid – 19 (Zero-Covid Policy) และการออกกฎระเบียบเพื่อควบคุมภาคธุรกิจต่างๆ ซึ่งกดดันให้ราคาหุ้นในตลาดปรับลดลงต่อเนื่อง"นางนันท์มนัสกล่าว
อย่างไรก็ตาม ตลาดหุ้นจีนได้ปรับตัวสะท้อนข่าวร้ายไปค่อนข้างมาก ส่งผลให้ระดับราคาตลาดหุ้นในปัจจุบันมีความน่าสนใจสูงขึ้นโดยเฉพาะตลาดหุ้น A-Shares ที่มีมูลค่า Market Cap ประมาณ 65% ของมูลค่าหุ้นทั้งหมดของจีน โดยตลาดหุ้น A-Shares ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากตัวเลขเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณปรับตัวดีกว่าคาด และมีโอกาสที่การลดเป้ากำไรจะผ่านจุดต่ำสุด หลังจากเริ่มเห็นสัญญาณการปรับเป้าผลประกอบการขึ้นของนักวิเคราะห์ในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา
ประกอบกับธนาคารกลางจีนเริ่มกลับมาอัดฉีดสภาพคล่องอีกครั้งผ่านการปรับลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งโดยปกติจะส่งผลดีกับตลาดหุ้น อีกทั้งในปีนี้จะมีการประชุมสมัชชาพรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 ถือว่ามีความสำคัญมากทางการเมืองอย่างมาก ซึ่งคาดว่า นโยบายรัฐบาลจีนโดยรวมจะสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจมากขึ้นและตลาดหุ้นในอดีตมักจะตอบรับในเชิงบวก
"ล่าสุดรัฐบาลจีนได้ออกมาตรการกระตุ้นภาคการบริโภคเพิ่มเติม คิดเป็นมูลค่ากว่า 3.95 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากนี้ การที่บริษัทในตลาด A-shares มีรายได้หลักจากในประเทศ ทำให้ได้รับผลกระทบจากความตึงเครียดทางการค้ากับสหรัฐฯ น้อยกว่าที่ตลาดคาด ซึ่งเหล่านี้นับว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ตลาดหุ้นจีนมีโอกาสเติบโตในระยะยาวได้”นางนันท์มนัส กล่าว
สำหรับกองทุน SCBRMASHARES ลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศเพียงกองทุนเดียว ได้แก่ Allianz China A-Shares (กองทุนหลัก) ชนิดหน่วยลงทุน (share class) PT (USD) สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ จดทะเบียนภายใต้กฎหมายของประเทศลักเซมเบิร์ก และอยู่ภายใต้ UCITS โดยกองทุนหลักมีวัตถุประสงค์สร้างการเติบโตของเงินลงทุนในระยะยาว ผ่านการลงทุนในหุ้น A-Shares ของจีน ทั้งนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า (Derivatives) เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามความเหมาะสมสำหรับสภาวการณ์ในแต่ละขณะ ซึ่งขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการลงทุน
นอกจากนี้ กองทุนหลักมีการบริหารเชิงรุก(Active Fund)เน้นลงทุนในบริษัทที่มี Market Cap มากกว่า 1 พันล้านเหรียญดอลลาร์สหรัฐฯ และเลือกลงทุนในหุ้นที่มีสภาพคล่องในหุ้นหลากหลายกลุ่ม อาทิ CATL - หนึ่งในผู้ผลิตแบตเตอรี่ลิเธียมชั้นนำของจีน ที่ใช้สำหรับรถยนต์ไฟฟ้า, East Money Information - แพลตฟอร์มข้อมูลทางการเงินและนายหน้าออนไลน์สำหรับนักลงทุนรายย่อย, Citic Securities – หนึ่งในบริษัทนายหน้าค้าหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในจีน, Fenjiu Group และ Wuliangye – ผู้ผลิตและจำหน่ายสุราขาวชั้นนำของจีน
ทั้งนี้ กองทุนหลักมีผลการดำเนินงานย้อนหลังตั้งแต่จัดตั้งอยู่ที่ 13.32% เทียบกับดัชนีอ้างอิง MSCI China A Onshore NR USD อยู่ที่ 7.09 (ที่มา: Morningstar ณ 31 ธ.ค. 2564)