นางนันท์มนัส เปี่ยมทิพย์มนัส ประธานเจ้าหน้าที่บริหารการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน(บลจ.) ไทยพาณิชย์ จำกัด เปิดเผยว่า หลังจากประสบความสำเร็จจากการบริหารกองทุน SCBGTTG เข้าเป้าหมายทริกเกอร์ก่อนกำหนดเมื่อเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา บริษัทฯจึงได้เปิดเสนอขายกองทุนประเภททริกเกอร์ฟันด์อย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองความต้องการของนักลงทุน
กองทุนนี้จะเป็นการลงทุนในกลุ่มที่มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต ได้แก่ กองทุนเปิดไทยพาณิชย์ Global Thematic Trigger 3 (SCB Global Thematic Trigger 3 : SCBGTTG3) มูลค่าโครงการ 5,000 ล้านบาท เริ่มเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 18 – 24 กุมภาพันธ์ 2565 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 1,000 บาท โดยตั้งเป้าหมายทริกเกอร์ 6% ภายในระยะเวลา 6 เดือน
“ปัจจุบันเทคโนโลยีมีบทบาทสำคัญกับทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคมทั่วโลก รวมถึงแนวทางการดำเนินธุรกิจขององค์กรและการดำเนินชีวิตของมนุษย์ที่ได้มีการนำเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามาช่วยเปลี่ยนโลก ซึ่งเห็นได้จากนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้นอยู่เสมอ ดังนั้น การลงทุนที่เน้นการเติบโตที่สอดคล้องกับทิศทางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของสังคม สภาพเศรษฐกิจ เทคโนโลยี และสถานการณ์ด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงพัฒนาการทางเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ในโลกอนาคต จึงเป็นหนึ่งในการเพิ่มโอกาสการลงทุนที่จะสร้างผลตอบแทนได้ดี”นางนันท์มนัสกล่าว
ประกอบกับ ในขณะนี้เป็นจังหวะที่เหมาะสมต่อการเข้าลงทุน เนื่องจากหุ้นเกี่ยวกับกลุ่มเทคโนโลยีในสหรัฐฯ มีการปรับฐานลงมาพอสมควรในช่วงที่ผ่านมา นอกจากนี้ กองทุน SCBGTTG3 ยังเปิดรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติ 2 ครั้ง ไม่ต้องรอทริกเกอร์เพียงครั้งเดียวเพื่อช่วยลดความไม่แน่นอนที่อาจเกิดขึ้น
กองทุน SCBGTTG3 มีนโยบายลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศอย่างน้อย 2 กองทุนที่ลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆ ทั่วโลก อาทิเช่น หน่วย CIS หน่วยของกองทุนอีทีเอฟ (ETF) กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ หน่วยทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ (REITs) กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน หรือหน่วย private equity เน้นหน่วยลงทุนของกองทุนต่างประเทศที่การลงทุนมีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีแห่งอนาคต
โดยจะลงทุนในกองทุนใดกองทุนหนึ่งโดยเฉลี่ยในรอบปีบัญชีไม่เกิน 79% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุน และพิจารณาปรับสัดส่วนการลงทุนได้ตั้งแต่ 0-100% ของมูลค่าทรัพย์สินสุทธิของกองทุนรวม รวมทั้งกองทุนจะเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้า(Derivatives) โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน (Hedging) ตามดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน
ทั้งนี้ กองทุนจะเน้นลงทุนตามธีม US Tech Focused เพื่อเพิ่มโอกาสการลงทุนให้ได้ตามเป้าหมายจากหุ้นเทคโนโลยีแห่งอนาคต โดยเบื้องต้นได้แก่
สำหรับเงื่อนไขการทริกเกอร์แบ่งเป็น 2 ครั้ง ได้แก่
ทั้งนี้ จะทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนภายใน 5 วันทำการนับแต่วันที่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าว และจะชำระเงินค่ารับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติภายใน 5 วันทำการนับแต่วันทำการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนโดยอัตโนมัติ โดยบริษัทจัดการขอสงวนสิทธินำเงินไปลงทุนต่อยังกองทุนเปิดไทยพาณิชย์ตราสารหนี้ระยะสั้นหรือกองทุนรวมตลาดเงินอื่นที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัทจัดการ
อย่างไรก็ตาม หากครบกำหนดระยะเวลา 6 เดือนนับแต่วันจดทะเบียนกองทรัพย์สินของโครงการเป็นกองทุนรวมแล้ว ไม่เกิดเหตุการณ์ดังกล่าวข้างต้น บริษัทจัดการจะเปิดให้ผู้ถือหน่วยลงทุนสามารถซื้อ/ขาย/สับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการซื้อขายหน่วยลงทุนที่บริษัทจัดการกำหนด จนกว่าจะเข้าเงื่อนไขการเลิกกองตามเงื่อนไขที่ระบุไว้