เสวนาในหัวข้อ " 5 หุ้นเด็ดที่ต้องมีในมือ" ซึ่งจัดโดย น.ส.พ.ฐานเศรษฐกิจ ณ โรงแรมแกรนด์ ไฮแอทเอราวัณ กรุงเทพ ฯ เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2565
นายกิจพณ ไพรไพศาลกิจ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษหลักทรัพย์ (บล.) ยโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย ) จำกัด ( มหาชน ) กล่าวว่า ภาพรวมหุ้นไทยปีนี้เราให้กรอบเป้าหมายดัชนี SET ที่ 1740 จุด เป็นพื้นฐานในไตรมาสแรก และมองว่ามีโอกาสปรับขึ้นแตะระดับ 1820 จุด
"เรานิยามว่ามองว่า ตลาดหุ้นปีนี้จะกลับเข้าสู่ภาวะปกติ ซึ่งในปีทีผ่านมา เริ่มเห็นภาพการฟื้นเกิดขึ้นทั่วโลก แต่ของไทย เศรษฐกิจโมเมนตั้มเริ่มดีตั้งแต่ปลายปี 2564 และแรงส่งยังต่อเนื่องตลอดครึ่งแรกของปีนี้จนถึงปี 2566 หรือกินเวลา 2 ปี
"ผมมองว่าเศรษฐกิจในฝั่งอาเซี่ยนรวมถึงประเทศไทย ยังมีแรงส่งต่อเนื่อง 2 ปี ( 2565-2566 ) จากการเปิดประเทศที่เริ่มบูมในปีนี้และส่งผลชัดเจนในปี 2566 เป็นจุดดึงดูดเงินทุนต่างชาติ (ฟันด์โฟลว์) ที่จะไหลเข้ามา ซึ่งตลาดที่มีการซื้อขายและใหญ่สุดคือตลาดหุ้นไทย จะได้รับอานิสงส์โดยตรง ส่วนที่กังวลเรื่องการลดสภาพคล่องของธนาคารกลางเฟด และธนาคารกลางยุโรปหรือ อีซีบี ก็ดี ผมยังมองว่า น่าจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไปมากกว่า ช่วงที่น่ากังวลบ้างก็อาจเป็นไตรมาส 3
ทั้งนี้เริ่มเห็นฟันด์โฟลว์ไหลเข้าในกลุ่มเซ็กเตอร์ธนาคาร พาณิชย์ พลังงานและปิโตรเคมี ปีนี้หุ้นพลังงานมองว่ายังโอเค แต่อาจต้องเปลี่ยนตัวเล่น"
นายกิจพณ แนะกลยุทธ์การลงทุน โดยให้ลงทุนในหุ้นที่ได้ประโยชย์จากการบริโภค การเปิดเมือง และกลุ่มคอมมอดิตี้ โดยเลือกตัวที่ทำกำไรยังไม่สูงสุด 5 หุ้นเด่นได้แก่