บริษัท ซันสวีท จำกัด (มหาชน) (SUN) เซ็นบันทึกข้อตกลงร่วมมือ (MOU) กับ บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด (EWS) พัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดและพืชผักเขตร้อน ยกระดับคุณภาพเมล็ดพันธุ์ไทยให้มีคุณภาพ คุณสมบัติเหมาะสมในการผลิตเชิงอุตสาหกรรม เสริมศักยภาพทางธุรกิจ หนุนรายได้ในอนาคตให้เพิ่มมากขึ้น
นายองอาจ กิตติคุณชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SUN ผู้ผลิตและจำหน่ายข้าวโพดหวานแปรรูปและผลิตภัณฑ์แปรรูปสินค้าเกษตรอื่นๆ ภายใต้ตราสินค้าของบริษัท “KC” เปิดเผยว่า การพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปผลิตภัณฑ์ทางการเกษตรไทยให้เติบโตในตลาดโลกนั้น ต้องอาศัยความร่วมมือจากกลุ่มผู้ประกอบการที่เกี่ยวเนื่องกันในอุตสาหกรรม เพื่อต่อยอดเทคโนโลยีและสร้างสรรค์นวัตกรรมใหม่ ในปี 2565
บริษัทมีแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์แปรรูปทางการเกษตร โดยมุ่งเน้นในด้านคุณภาพ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค และเล็งเห็นว่า EWS ผู้นำด้านเมล็ดพันธุ์ (เมล็ดพันธุ์ตราศรแดง) ซึ่งเป็นพันธมิตรทางธุรกิจ มีศักยภาพสูงในการพัฒนาเมล็ดพันธุ์พืชสำหรับปลูก ให้มีคุณภาพเหมาะสมสำหรับการผลิตในเชิงอุตสาหกรรมเพื่อการจำหน่ายและส่งออก
จึงได้บรรลุลงนามความร่วมมือ ในการวิจัยและพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดหวาน และพันธุ์ผักร่วมกัน เพื่อเป็นการช่วยเหลือเกษตรกรในการเพิ่มขีดความสามารถทางการเกษตร และให้มีเมล็ดพันธุ์ที่มีคุณภาพสูง สามารถปลูกให้ได้ผลผลิตร้อยละ (%Yield) ที่ตรงตามความต้องการในการผลิต ถือเป็นโอกาสดีที่ของทั้งสองบริษัท ในการร่วมมือเพื่อประโยชน์โดยภาพรวมของธุรกิจและเกษตรกรผู้ผลิตข้าวโพดหวาน และเป็นการสร้างความมั่นคงด้านเมล็ดพันธุ์พืช ให้มีศักยภาพในการแข่งขันของตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ด้าน นายวิชัย เหล่าเจริญพรกุล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท อีสท์ เวสท์ ซีด จำกัด กล่าวว่า ในปีนี้ EWS ครบ 40 ปี ซึ่งมีการพัฒนาในเรื่องของนวัตกรรมเมล็ดพันธุ์และสายพันธุ์อยู่ตลอดเวลา สายพันธุ์ที่ออกสู่ตลาดต้องเป็นสายพันธุ์ที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกร และต้องมีคุณค่าทางอาหารสูงพร้อมทั้งถูกปากผู้บริโภคอีกด้วย
การร่วมมือกับ SUN ในครั้งนี้ มองว่าทั้ง 2 แบรนด์ไม่ว่าจะเป็นเมล็ดพันธุ์ตราศรแดงและ KC เป็นที่รู้จักและได้รับความนิยมสูงในตลาดผู้บริโภค และความเชี่ยวชาญที่แข็งแกร่งทั้ง 2 ฝ่ายมี จะนำให้การร่วมมือบรรลุตามวัตถุประสงค์ ในการพัฒนาสายพันธุ์ข้าวโพดและพืชผักเขตร้อน เพื่อนำไปให้เกษตรกรเพาะปลูก และนำมาผลิตและแปรรูปเป็นอาหารพร้อมรับประทานสำหรับตลาดในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้การพัฒนาสายพันธุ์ที่ดี จะส่งผลให้เกษตรกรมีรายได้ที่มั่นคง ทำให้ธุรกิจเกษตรของไทยเติบโตอย่างยั่งยืน
ความร่วมมือของทั้ง 2 บริษัท ในครั้งนี้ จะเป็นจุดปลี่ยนสำคัญต่อการดำเนินธุรกิจเกษตรและภาคอุตสาหกรรม โดยการนำองค์ความรู้ เทคโนโลยีและนวัตกรรมต่าง ๆ มาช่วยในการวิจัยพัฒนาและสนับสนุนการทำเกษตรให้มีความแม่นยำสูง เพิ่มประสิทธิภาพในการปลูก ปรับปรุงสายพันธุ์พืชต่างๆ ที่เหมาะสม สร้างความความมั่นคงให้แก่เกษตรกร ขยายผลสู่สังคม และเกิดความมั่นคงทางอาหารต่อไป