"ศุภกิจ งามจิตรเจริญ"ขยับถือ ZIGA เป็น 19.37% มั่นใจทรานส์ฟอร์มสู่ธุรกิจเทค

07 มี.ค. 2565 | 07:08 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2565 | 14:09 น.

"ศุภกิจ งามจิตรเจริญ" ซีอีโอ บมจ.ซิก้า อินโนเวชั่น (ZIGA) เก็บหุ้นเพิ่มอีก1 ล้านหุ้น ถือครอง 19.37% เชื่อมั่นธุรกิจทรานส์ฟอร์มสู่เทคโนโลยี ดันอนาคตโตกระฉูด ระบุตั้งใจทำจริง-ไตรมาสแรกมีเครื่องขุดบิตคอยน์ 400 เครื่อง รับรู้รายได้ทันที

นายศุภกิจ งามจิตรเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซิก้า อินโนเวชั่น จำกัด (มหาชน) ZIGA เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2565 ได้ทำรายการซื้อหุ้น จำนวน 1 ล้านหุ้นที่ราคาหุ้นละ 8.45 บาท คิดเป็นมูลค่ารวม  8.45 ล้านบาท  ส่งผลให้จำนวนหุ้นในพอร์ตลงทุนเพิ่มขึ้นจำนวน 118.70 ล้านหุ้น คิดเป็น 19.37 % และการเข้ามาลงทุนซื้อหุ้นเพิ่ม เนื่องจากมีความเชื่อมั่นในการทรานส์ฟอร์มจากธุรกิจเหล็ก สู่ธุรกิจเทคโนโลยี  จะทำให้บริษัทฯก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่มีสินทรัพย์ดิจิทัลช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มผลักดันอนาคตเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด

 

“ผมอยากสื่อสารให้ทุกคนทราบว่า การทรานสฟอร์มของ ZIGA ครั้งนี้ เรามีความตั้งใจทำธุรกิจอย่างจริงจัง ไม่ใช่แต่การพูดเพื่อสร้างกระแสข่าว ปัจจุบันเราอยู่ระหว่างการทยอยติดตั้งเครื่องขุดบิตคอยน์เพิ่มตามเป้าหมาย ซึ่งภายในไตรมาส 1/2565 บริษัทตั้งเป้ามีเครื่องขุดเพิ่มขึ้นเป็น 400 เครื่อง เพื่อมาขยายกำลังแรงขุด และสนับสนุนให้มีรายได้เพิ่มขึ้น

 

โดยคาดว่าการลงทุนเครื่องขุดบิตคอยน์ในอนาคต จะมีโอกาสติดตั้งเครื่องขุดได้ถึงระดับ 1,000 - 10,000 เครื่อง ซึ่งขึ้นอยู่กับเงินลงทุนของบริษัท โดยตอนนี้มีความพร้อมแหล่งเงินทุนส่วนหนึ่ง หลังจากได้ขออนุมัติวงเงินออกหุ้นกู้ ในวงเงินล่วงหน้าไว้ 4 พันล้านบาท จากผู้ถือหุ้นเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
 

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า แผนการดำเนินธุรกิจในปี 2565 บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายมีรายได้เติบโตแตะที่ระดับ 15-30% จากปีก่อน โดยยังคงได้รับปัจจัยหนุนจากธุรกิจหลักเดิม ซึ่งความต้องการท่อร้อยสายไฟยังมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากโครงการขนาดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นโครงการรถไฟฟ้าต่างๆ โรงพยาบาล และโครงการโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ เป็นต้น นอกจากนี้บริษัทยังได้เตรียมออกผลิตภัณฑ์ใหม่คือท่อประปาที่คาดว่าจะเข้ามารองรับความต้องการจากลูกค้ากลุ่มเดิมที่มีมากขึ้น

 

ขณะที่ธุรกิจใหม่ ล่าสุดได้เข้าร่วมทุนกับพันธมิตร เพื่อจัดตั้งบริษัทย่อย 2 แห่ง ประกอบด้วย บริษัท เมอร์ลินตั้น อินโนเวชั่น จำกัด มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อการลงทุน และพัฒนาธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับ Digital Technology ด้วยทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งเป็น สัดส่วนการถือหุ้นโดย ZIGA ถือหุ้น 89.98%และบริษัท วิสเดน กรุ๊ป จำกัด มีวัตถุประสง์หลักเพื่อการลงทุนธุรกิจที่ให้บริการทางการเงิน ที่นำเอาเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ (Financial Technology หรือ FinTech และทดลองและพัฒนานวัตกรรมทางการเงินและธุรกิจที่เกี่ยวข้องรวมถึงพัฒนาและบริหารผลิตภัณฑ์ทางการเงิน มีทุนจดทะเบียน 1 ล้านบาท แบ่งเป็นสัดส่วนการถือหุ้นโดย ZIGA ถือหุ้น 69.99%

สำหรับการร่วมมือกับพันธมิตรในครั้งนี้ เป็นการพัฒนาเพื่อก้าวไปสู่การเป็นบริษัทที่ทำธุรกิจเทคโนโลยีอย่างเต็มรูปแบบ และยังเป็นการเติมเต็มธุรกิจเหล็ก และธุรกิจโครงสร้างโรงเรือนกัญชง-กัญชา สนับสนุนการเติบโตอย่างก้าวกระโดดได้ต่อเนื่อง โดยบริษัทได้เริ่มต้นด้วยธุรกิจเหมืองบิตคอยน์ และได้ดำเนินการไปแล้วทำให้สามารถสร้างรายได้และรับรู้รายได้เข้ามาตั้งแต่ปลายปี 2564 

 

ผลการดำเนินงานในปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 204.22 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 73.5 % จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 117.70 ล้านบาท โดยบริษัทฯมี EBITDA ในปี 2564 จำนวน 292.4 ล้านบาท