Fulltime Trader อาชีพอิสระที่ทุกคนฝันอยากเป็น

21 มี.ค. 2565 | 07:39 น.
อัปเดตล่าสุด :21 มี.ค. 2565 | 14:39 น.

Fulltime Trader อาชีพอิสระที่ทุกคนฝันอยากเป็น : คอลัมน์ Investing Tactic โดย อภิชาติ วินิจพิทยากุล (โค้ชจิ๊บ) วิทยากรพิเศษ โครงการ SITUP

ปัจจุบันหนึ่งในอาชีพที่คนส่วนใหญ่ใฝ่ฝันอยากจะเป็นคือ การเป็นนักลงทุนอิสระหรือ Fulltime Trader เพราะมีอิสระทางความคิดและเวลา เป็นเจ้านายตัวเอง ที่สำคัญคือมีอิสรภาพทางการเงิน มีความสุขที่ได้อยู่บ้าน ไม่ต้องยุ่งเกี่ยวกับคนอื่น

 

อาชีพของ Fulltime Trader เบื้องต้น คือคุณต้องวางแผนชีวิต และเริ่มการเรียนรู้พื้นฐานการอ่านกราฟทางเทคนิค การวางเงิน (Money Management) และสุดท้ายคือ Mindset ซึ่งปัญหาเรื่อง Mindset เป็นสิ่งที่ Fulltime Trader ทุกคนจะต้องเจอกับความสับสนที่ยังหาแนวทางในการเทรดของตัวเองไม่เจอ 

 

อย่างที่กล่าวไว้ตอนต้นว่า อาชีพ Fulltime Trader นี้ น่าจะเป็นอาชีพที่ทุกคนฝันอยากจะเป็น แต่มันก็ไม่ง่ายนักถ้าเราอยากจะเป็น เพราะอาชีพนี้ต้องทำงานหนัก คุณต้องตั้งเป้าว่าแต่ละเดือนคุณต้องการรายได้เท่าไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร และต้องเทรดให้ได้เท่าไรถึงจะครอบคลุมกับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้น ถ้าได้เกินเป้าก็เปรียบเสมือนเราได้โบนัสกลับมา

Fulltime Trader อาชีพอิสระที่ทุกคนฝันอยากเป็น

ที่สำคัญคือคุณจะต้องทำการบ้านทุกๆวัน เพื่อที่จะได้มีตัวเทรดในวันต่อไป ต้องอ่านข่าวสาร วางแผนการเทรด จดบันทึกการเทรด ปรับปรุงวิธีการเทรด ไม่ใช่การหาหุ้นตามห้อง Line ต่างๆ เพราะถ้าคุณหาหุ้นตามห้อง Line สุดท้ายมันจะย้อนกลับมาทำลายคุณเอง 

อาชีพ Fulltime Trader สำหรับคนที่มีต้นทุนน้อย การกำหนดกลยุทธ์ในการเทรดจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่จะต้องเลือกให้เหมาะสม ยกตัวอย่างเช่น คุณต้องการจากตลาด เดือนละ 100,000 บาท แปลว่าโดยเฉลี่ยคุณจะต้องเทรดให้ได้วันละ 5,000 บาท ถ้าคุณไปเลือกวิธีการเทรดแบบ Run trend คำถามคือมันทำได้หรือเปล่า ขอตอบว่าทำได้ครับแต่จะถึงเป้าในแต่ละเดือนหรือไม่เราตอบไม่ได้ครับ ตลาดจะเป็นตัวตอบให้เราเอง

 

คำแนะนำคือ คุณต้องออกแบบการเทรดให้เหมาะสมตั้งแต่ต้นก่อน แล้วใช้วิธีนั้นๆ วิธีเดียวในการปั้น Portfolio เมื่อคุณปั้น Portfolio จนโตได้ถึงเป้าที่คุณต้องการในเบื้องต้นแล้ว ก็ให้แบ่ง Port ออกมาเป็น Run trend หรือ Swing trade แต่คุณยังคงต้องเทรดแบบหา กระแสเงินสดอยู่เสมอ ถ้าคุณไม่มีความชัดเจนและไม่วางแผนตั้งแต่ต้น สุดท้ายคุณจะแพ้ตัวเองและแพ้ตลาด 

 

เพราะความสับสนในการเทรดจะเกิดขึ้น เช่น คุณต้องการหากระแสเงินสดในวัน คุณไปเข้าหุ้น 1 ตัว กำไรมา 5,000 บาท แต่ยังไม่ออกจากการเทรดหุ้นตัวนั้น เพราะมันจะมีความคิดอีกด้านว่า มันจะต้องไปต่อนะอย่าพึ่งออกเลย พอราคาหุ้นมันเริ่มย่อ จากกำไร 5,000 บาท ลดเหลือ 2,000 บาท ก็คิดว่าออกก็ได้ ได้กำไรมา 2,000 บาท ก็ยังดี พอออกแล้วราคาหุ้นวิ่งขึ้นต่อไปอีก ก็รู้สึกว่าออกไปทำไมถ้าถือไว้กำไรก็น่าจะ 8,000 บาท 

 

สุดท้ายเมื่อมีความโลภ ก็จะซื้อหุ้นเพิ่มขึ้นตรงนี้เพื่อจะเอากำไร 3,000 คืนให้ได้เพื่อให้ได้ถึงเป้าหมายของวัน แต่การกระทำแบบนี้มันกำลังสร้างนิสัยแย่ๆในการเทรดโดยที่คุณไม่รู้ตัว ผมว่า Fulltime Trader ทุกคนจะต้องเคยเจอกับเหตุการณ์แบบนี้บ้างไม่มากก็น้อย 

 

อาชีพ Fulltime Trader นี้ สิ่งสำคัญคือคุณต้องมีความชัดเจนและมีวินัยในตัวเองให้มาก เมื่อคุณปักธงไว้ข้างหน้าแล้วว่า จะเดินทางสายนี้ คุณจำเป็นต้องศึกษาหาความรู้และหาต้นแบบคนที่ประสบความสำเร็จในสายการเก็งกำไรว่า เขาทำอย่างไรให้สามารถทำกำไรได้สม่ำเสมอและอยู่รอดในตลาดเก็งกำไรได้ 

 

หลังจากรู้ทฤษฎีแล้ว คุณต้องลงมือเทรดจริงเพื่อให้เกิดประสบการณ์เหมือนเวลาที่คุณหัดขับรถ หลังจากนั้นก็ค่อยๆสร้างผลตอบแทนด้วยวงเงินที่คุณวางแผนไว้ตั้งแต่ตอนแรก อาจจะใช้เวลาไม่ต้องรีบเพราะสถานการณ์ในตลาดเปลี่ยนแปลงทุกวัน ยิ่งอยู่นานประสบการณ์จะเพิ่มขึ้นมาเอง เมื่อเราเริ่มชำนาญหลักการของการเก็งกำไรแล้ว เราก็ค่อยเอากำไรมาต่อยอดเป็นลักษณะของการ Swing Trades หรือ Run Trend เพื่อสร้างความมั่งคั่งให้กับตัวเองและครอบครัว 

 

ที่สำคัญที่อยากจะเตือนไว้คือ Mindset ของการเก็งกำไร เพราะหน้าเทรดเป็นตัวกำหนดการทำแผนจุดเข้าซื้อและขายทำกำไร แต่ Mindset เป็นความรู้สึกที่อยู่ในจิตใจซึ่งจะทำให้เรากล้าหรือกลัว เพราะตลาดมักจะทำให้เราเกิดการหลงทางในกับดักของกำไร คนที่มีอาชีพเป็น Fulltime Trader จะต้องเจออยู่เสมอ

 

ดังนั้น จงพอใจในสิ่งที่เราทำตามแผน ปรับปรุงแผนเมื่อเราเจอปัญหา และหมั่นทบทวนบันทึกการเทรดอยู่เสมอ สุดท้ายความสำเร็จก็จะตามมาเอง

 

หน้า 14 หนังสือพิมพ์ฐานเศรษฐกิจ ปีที่ 42 ฉบับที่ 3,767 วันที่ 20 - 23 มีนาคม พ.ศ. 2565