“ธอส” ย้ำโอกาสดีคนอยากมีบ้าน เดินหน้าตรึงดอกเบี้ยถึงสิ้นปี 65
“ธอส” ยืนยันเดินหน้าตรึงดอกเบี้ยสินเชื่อบ้านต่อถึงสิ้นปี 65 ชี้เป็นโอกาสดีของคนพร้อมมีบ้าน คาดยอดปล่อยสินเชื่อ ทั้งปีโตไม่ต่ำกว่า 2.7 แสนล้าน
นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการ ธอส. บรรยายพิเศษ เรื่อง “แบงก์ปลดล็อกสินเชื่ออสังหาฯ รับตลาดฟื้น” ในงานสัมมนา Property Focus 2022 : Mega Trend อสังหาฯ รับ New Norm จัดโดย นสพ.กรุงเทพธุรกิจ โดยระบุว่า ตัวเลขสินเชื่อของ ธอส.ในไตรมาส 1 ปล่อยใหม่ได้สูงมาก ถึง 6.2 หมื่นล้านบาท ซึ่งโดยทั่วไปแล้วการปล่อยสินเชื่อในช่วงดังกล่าวจะเป็นช่วงที่ปล่อยได้ต่ำที่สุด
ฉะนั้นหากคิดรวม 4 ไตรมาส จะปล่อยได้ประมาณ 2.4 แสนล้านบาท แต่เชื่อว่า ธอส. จะปล่อยได้มากกว่า หรืออยู่ที่ประมาณ 2.7 แสนล้านบาท
“เป้าการปล่อยสินเชื่อดังกล่าว เป็นการสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้ประกอบการอสังหาฯ และ เป็นดัชนีชี้วัดการฟื้นตัวอสังหาฯว่า ถ้ามีการสร้างที่อยู่อาศัยจะขายใคร ซึ่งขายใครนั้น ตัวเลขสินเชื่อมันฟ้องอยู่แล้ว แต่ถามว่า ใครจะปล่อยสินเชื่อ ก็ ธอส.นี่แหละจะเป็นคนปล่อย” นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย กล่าวอีกว่า แนวโน้มอัตราดอกเบี้ยในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น แต่ภายใต้บริบทของประเทศ โดยกนง.ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย และกระทรวงการคลังได้มีนโยบายให้ ธอส. ตรึงอัตราดกเบี้ยนั้น ซึ่ง ธอส. พร้อมจะตรึงดอกเบี้ยจนถึงสิ้นปี 65 นี้ ดังนั้นจึงเป็นช่วงที่ดี สำหรับผู้มีความพร้อมที่จะซื้ออสังหาฯ
“ในแง่อัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาขึ้นนั้น ในส่วนแพคเกจสินเชื่อของ ธอส. จะเป็นแบบอัตราดอกเบี้ยคงที่ ดังนั้น จากนี้ไป 1-2 ปี อัตราดอกเบี้ยคงที่แน่นอน และด้วยความเป็นแบงก์รัฐ เราจะตรึงอัตราดอกเบี้ยให้นานที่สุด“ นายฉัตรชัย กล่าว
นายฉัตรชัย ยังกล่าวถึงตลาดสินเชื่อในขณะนี้ เป็นตลาดของคนที่มีความพร้อมมากกว่า เพราะคนที่มีรายได้น้อยที่มีผลกระทบทางด้านรายได้จากโควิดนั้น แม้ทางธนาคารได้เข้าไปช่วยเหลือ โดยตรึงดอกเบี้ยให้แม้ว่าความสามารถในการชำระหนี้จะลดลง แต่เขายังได้สินเชื่อในวงเงินเท่าเดิม
ทั้งนี้ราคาของอสังหาฯ โดยภายใต้สถานการณ์โควิดที่ผ่านมา มีโปรโมชั่นจำนวนมาก ซึ่งจากยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารที่ปล่อยเฉลี่ยกว่า 2 แสนล้านบาทต่อปี ได้สูบสต็อกบ้านที่มีไปหมดแล้ว ดังนั้นจากนี้ไปจะมีบ้านสร้างใหม่ ซึ่งต้นทุนจะไม่เหมือนเดิม และทำให้ราคาอสังหาฯ มีสิทธิ์ปรับขึ้น ซึ่ง ธอส. พร้อมจะเข้าไปช่วยในเรื่องของดอกเบี้ยและวงเงินสินเชื่อ แม้รายได้ของผู้กู้จะลดลงก็ตาม
อย่างไรก็ตาม จากการที่ธนาคารพาณิชย์ได้ปฏิเสธสินเชื่อ เพื่อลดความเสี่ยงหนี้เสียนั้น ในส่วนของ ธอส. เองก็จะปล่อยสินเชื่อภายใต้การบริหารความเสี่ยงของเราเอง ซึ่งในส่วนของหนี้เสียของ ธอส.ขณะนี้นั้น ยังต่ำเพราะเป็นการกู้เพื่อที่อาศัยจริง