จากกรณีที่มีกระแสข่าวออกมาว่า กระทรวงการคลังอยู่ระหว่างศึกษาแนวทางที่จะปรับเปลี่ยนมาตรการ"คนละครึ่ง"เฟสใหม่ ให้สอดคล้องกับสภาพปัจจุบัน โดยการปรับสูตรเป็น รัฐสนับสนุน 25% และประชาชนจ่าย 75%
โดยระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 รัฐบาลอาจแจกเงินให้ประชาชน1,200 บาทต่อคน เท่ากับคนละครึ่งเฟส 4 แต่จะให้ประชาชนดึงเงินออกมาจับจ่ายมากขึ้น จากเดิมที่โครงการ"คนละครึ่ง" รัฐร่วมจ่าย 1,200 บาท ประชาชนออกค่าใช้จ่าย 1,200 บาท เท่ากับมีเงินเข้ามาในระบบ 2,400 บาท แต่สูตรใหม่รัฐร่วมจ่าย 1,200 บาท ประชาชนออกค่าใช้จ่าย 3,600 บาท ทำให้มีเงินเข้ามาในระบบเพิ่มขึ้นเท่าตัว
ต่อเรื่องนี้ นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง ชี้แจงว่า ยังไม่ได้รับรายงานเรื่องดังกล่าว เนื่องจากยังไม่ได้มีการหารือถึงรายละเอียดของโครงการ
ทั้งนี้ ต้องรอความชัดเจนหลังจากที่มีการหารือร่วมกับทุกฝ่าย และผลสรุปข้อมูลตัวเลขเศรษฐกิจจากโครงการคนละครึ่งเฟส 4 มาประเมินร่วมกัน เพื่อให้ทราบถึงภาวะเศรษฐกิจที่แท้จริง และเปรียบเทียบกับวัตถุประสงค์ของโครงการเพื่อพิจารณาร่วมกันด้วย
โครงการ คนละครึ่ง เป็นหนึ่งในโครงการของรัฐบาลที่ได้รับการตอบรับจากประชาชนเป็นอย่างดี ส่วนการจะดำเนินการโครงการ"คนละครึ่ง เฟส 5" ต่อหรือไม่ ปัญหา ณ ขณะนี้คือเรื่องของงบประมาณ เนื่องจากเป็นโครงการนี้ที่ต้องใช้งบเป็นจำนวนสูง
จากการรวบรวมข้อมูลของ"ฐานเศรษฐกิจ" พบว่านับตั้งแต่เริ่มโครงการคนละครึ่ง ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่เดือนก.ย. 2563 ถึงปัจจุบัน รวม 4 โครงการ ได้ใช้วงเงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงินฯ ทั้ง 2 ฉบับ วงเงินรวม 1.5 ล้านล้านไปแล้ว คิดเป็นกรอบวงเงินประมาณถึง 2.22 แสนล้านบาท
ทั้งนี้โครงการคนละครึ่งเฟส 4 จะสิ้นสุดโครงการในวันที่ 30 เม.ย.65 ขณะนี้มีผู้ใช้สิทธิครบ 1,200 บาท แล้วประมาณ 12.69 ล้านราย คิดเป็นร้อยละ 48 ของผู้ใช้สิทธิทั้งหมด และยังมีจำนวนผู้ได้รับสิทธิที่ยังไม่ได้เริ่มใช้สิทธิประมาณ 1.2 แสนราย (ข้อมูล ณ 22 เม.ย.65)
ล่าสุดนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงเรื่องคนละครึ่ง เฟส 5 ต้องดูว่ามีความจำเป็นหรือไม่ เพราะเป็นมาตรการที่ใช้งบประมาณสูง และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น