“EXIM BANK" เดินหน้าเปิดสำนักงานตัวแทนเวียดนาม รองรับทัพนักลงทุนไทย/เอสเอ็มอีไทยในเวียดนาม -หนุนเอกชนของเวียดนามที่ต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำผ่านแบงก์รัฐเวียดนาม ซึ่งเอ็กซิมแบงก์ได้ลงนามความร่วมมือสนับสนุนทางการเงินให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนาแห่งประเทศเวียดนาม หรือ BIDV วงเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ดอกเบี้ย 3.5% ภายใต้เงื่อนไข ต้องสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทยไม่ต่ำกว่า 50% ของวงเงินสินเชื่อที่ขอสนับสนุน
นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (เอ็กซิมแบงก์) เปิดเผยภายหลังพิธีเปิดสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ ณ นครโฮจิมนห์ ประเทศเวียดนาม ว่า การเปิดสาขาตัวแทนดังกล่าว เพื่อรองรับทัพนักลงทุนไทยที่เข้ามาลงทุนในเวียดนาม ซึ่งปัจจุบัน มีเอกชนไทย สนใจเข้ามาเจรจากับ เอ็กซิมแบงก์ เพื่อขอสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำราว 200 ราย โดยส่วนใหญ่เป็นผู้ประกอบการเอสเอ็มอี ซึ่งเอ็กซิมแบงก์จะพิจารณาปล่อยสินเชื่อช่วยเอสเอ็มอีไทยในเวียดนามวงเงินรายละ 5 ล้านบาท
ขณะเดียวกันหากเป็นเอกชนของเวียดนามที่ต้องการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ จะต้องทำการขอสินเชื่อผ่านแบงก์รัฐเวียดนาม ซึ่งเอ็กซิมแบงก์ได้ลงนามความร่วมมือสนับสนุนทางการเงินให้กับธนาคารเพื่อการลงทุนและพัฒนาแห่งประเทศเวียดนาม หรือ BIDV วงเงิน 100 ล้านดอลลาร์ ดอกเบี้ย 3.5% โดยมีเงื่อนไข คือ ต้องสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทยไม่ต่ำกว่า 50% ของวงเงินสินเชื่อที่ขอสนับสนุน
"วงเงินสินเชื่อที่ให้ 3.5% ถือว่าเป็นอัตราผ่อนปรนและเป็นอัตราที่ต่ำกว่าดอกเบี้ยในระบบของเวียดนามที่อยู่ที่ 12% ดังนั้นอัตราดอกเบี้ยที่ให้ จะเป็นการสร้างแรงจูงใจให้เอกชนเวียดนามขอสินเชื่อ และยังหนุนการส่งออกสินค้าของผู้ประกอบการไทยอีกด้วย ซึ่งปัจจุบันมีเอกชนเวียดนามที่เป็นพันธมิตรกับนักลงทุนไทย และนำเข้าสินค้าจากไทยราว 2,000 ราย"
นายรักษ์ กล่าวอีกว่าสำหรับรูปแบบการปล่อยสินเชื่อให้สถาบันการเงินของรัฐ ในอัตราดอกเบี้ยต่ำ และมีเงื่อนไขที่ต้องสั่งซื้อสินค้าจากผู้ประกอบการไทยในสัดส่วนไม่ต่ำกว่า 50% ของวงเงินสินเชื่อนั่น จะถูกนำไปใช้กับสำนักงานผู้แทนเอ็กซิมแบงก์ในกลุ่มประเทศอินโดจีน ที่ได้เปิดสำนักงานสาขาไปแล้วก่อนหน้านี้ ทั้งที่กัมพูชา ลาว และเมียนมาร์
ทั้งนี้ในช่วงไตรมาสแรกปี 2565 EXIM BANK ได้ขยายสินเชื่อให้แก่ผู้ประกอบการในเวียดนามมากที่สุดในตลาด CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) โดยมียอดสินเชื่อคงค้างจำนวน 13,843 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.65% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากสินเชื่อคงค้างใน CLMV และ New Frontiers ทั้งหมด 51,554 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เวียดนามเป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทยในอาเซียน การส่งออกของไทยไปเวียดนามเน้นการตอบสนองความต้องการวัตถุดิบและสินค้าขั้นกลางให้แก่ภาคอุตสาหกรรมของเวียดนาม สินค้าส่งออกสำคัญของไทยไปเวียดนาม ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์ และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก เคมีภัณฑ์ เครื่องปรับอากาศและส่วนประกอบ และน้ำมันสำเร็จรูป
ขณะที่การลงทุนของไทยในเวียดนามกระจายอยู่ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ พลังงาน นิคมอุตสาหกรรม อุตสาหกรรมการผลิตและแปรรูป เกษตรและประมง ธนาคาร ก่อสร้าง ค้าส่ง ค้าปลีก โรงแรม ร้านอาหาร คลินิกเสริมความงาม ขนส่ง โลจิสติกส์ และธุรกิจโฆษณา โดยไทยเป็นนักลงทุนรายใหญ่อันดับ 8 ในเวียดนาม
ซึ่งที่ผ่านมาไทยมีโครงการลงทุนในเวียดนามภายใต้การสนับสนุนของ EXIM BANK ในหลากหลายธุรกิจ อาทิ โรงไฟฟ้าพลังงานสะอาด ปิโตรเคมี ห้างค้าส่งและค้าปลีก