บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย (KS) ระบุในบทวิเคราะห์ Sector โรงกลั่น ว่า จากกรณีที่กระทรวงพลังงาน หารือกับกลุ่มโรงกลั่น แนวทางที่จะดำเนินการส่งเงินเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมทั้งขอความร่วมมือ บมจ.ปตท. หรือ PTT นำส่งกำไรส่วนหนึ่งของโรงแยกก๊าซธรรมชาติเข้ากองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง โดยคาดว่าจะจัดเก็บได้ประมาณ 500 -1,000 ล้านบาทต่อเดือน ระยะเวลา 1 ก.ค.- 30 ก.ย. 65
KS ประเมินว่าประเด็นดังกล่าวแม้จะยังไม่ชัดเจนทั้งหมด แต่อย่างไรก็ตามหากอิงตัวเลขจากข่าวที่ขอความร่วมมือจาก ปตท. 500-1000 ล้านบาทต่อเดือน เมื่อเทียบกับข่าวก่อนหน้านี้ที่ขอให้ ปตท.จ่าย 1,500 ล้านบาทต่อเดือน ถือว่าต่ำกว่าคาด ให้ติดตามว่ากลุ่มโรงกลั่นจะต้องจ่ายเงินช่วยเหลือน้อยกว่าก่อนหน้าที่เป็นข่าวหรือไม่ คือจากการกลั่นน้ำมันดีเซลเดือนละ 5,000-6,000 ล้านบาท และกำไรจากการกลั่นน้ำมันเบนซินเดือนละ 1,000 ล้านบาท
KS ประเมินเป็นปัจจัยบวกต่อราคาหุ้นในกลุ่มโรงกลั่นที่ปรับฐานลงมานับตั้งแต่มีข่าวสัปดาห์ที่แล้วนับตั้งแต่วันที่ 13 มิ.ย.- ปัจจุบัน โดยราคาหุ้น
แนะนำเก็งกำไร (Trading) เพราะจำนวนเงินช่วยเหลืออาจต่ำกว่าที่ทางรัฐเสนอ และบางรายอาจหันไปส่งออกแทนด้วยทำให้ downside ที่เกิดขึ้นน้อยกว่าราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาก่อนหน้า
สอดคล้องกับ บล.เอเซียพลัส (ASPS ) ระบุว่า ผลกระทบต่อกลุ่มโรงกลั่นน้ำมัน ถือว่าผ่อนคลายกว่าที่คาดว่า โดยเป็นเพียงการขอความร่วมมือ ขณะที่เม็ดเงินที่จะดึงเงินจากโรงแยกก๊าซเข้ากองทุนน้ำมันได้ 500 - 1,000 ล้านบาท/เดือน (เดิมตลาดประเมินไว้ราว 1,000 –2,000 ล้านบาท/เดือน) ช่วยหนุนให้หุ้นกลุ่มโรงกลั่นรีบาวน์ขึ้นมาช่วงสั้นได้
โดยวานนี้ TOP ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.0% , PTTGC +1.7% , BCP +3.4% ESSO +6.5% ,SPRC +3.5% แนะนำเก็งกำไร TOP, PTTGC