22 มิ.ย.2565 นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงการคลัง โพสต์เฟซบุ๊ก หัวข้อ" ทำไมพลเอกประยุทธ์ไม่รู้เกี่ยวกับกำไรกลั่นน้ำมัน?" เนื้อหาดังนี้
เมื่อวันที่ 13 มิ.ย. 2565 พลเอกประยุทธ์กล่าวว่า ไม่สามารถแทรกแซงค่าการกลั่นได้ เพราะมีกฎหมายคุ้มครองอยู่ ต้องอาศัยการขอความร่วมมือ
ท่านนายกฯคงจะลืมไปว่า ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 มาตรา 25 (2) และ (3) รัฐมีอำนาจที่จะควบคุมกำหนดอัตรากำไรในการกลั่นที่เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ประชาชนอยู่แล้ว
ดังนั้น พลเอกประยุทธ์จึงมีหน้าที่จะต้องเร่งรัดให้ รมว.พาณิชย์ ดำเนินการ
พลเอกประยุทธ์กลับออกมาแถลงว่า ต้องอาศัยการขอความร่วมมือ และคุณกรณ์ จาติกวนิช หัวหน้าพรรคกล้า ก็ออกมาขอบคุณทางรัฐบาลที่ขานรับประเด็นเรื่องค่าการกลั่นโดยเร็ว ขอให้ถือว่าเรามาช่วยกันทำงานเพื่อบ้านเมือง
และดีใจที่ประชาชนได้เงินกลับมา 24,000 ล้านบาททันที (รูป 1) แต่ผมกังวลว่า การใช้วิธีขอความร่วมมือนั้น ท่านนายกฯ จะมีตัวเลขพิสูจน์ต่อสาธารณะได้อย่างไรว่า จำนวนเงินและระยะเวลานั้นเหมาะสม?
วันนี้ ผมได้รับข้อมูลที่น่าสนใจ ที่แสดงว่าท่านนายกฯ น่าจะมีความรู้ความเข้าใจเรื่องกำไรกลั่นน้ำมันเป็นอย่างดี
รูป 2 เป็นแบบรายงาน 56-1 ซึ่งส่ง ก.ล.ต. และเปิดเผยต่อสาธารณะ ประจำปี 2550 ของบริษัทไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) ส่วนที่ 2 หน้า 89 แสดงรายชื่อกรรมการ
ลำดับที่ 7 ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้รับค่าตอบแทน 665,000.00 บาท
รูป 3 ปี 2551 ส่วนที่ 2 หน้าที่ 101
ลำดับที่ 10 ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้รับค่าตอบแทน 2,812,880.03 บาท
รูป 4 ปี 2552 ส่วนที่ 2 หน้าที่ 102
ลำดับที่ 9 ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้รับค่าตอบแทน 1,709,441.74 บาท
รูป 5 ปี 2553 ส่วนที่ 1 หน้าที่ 121
กรรมการที่ครบวาระและออกระหว่างปี 2553
ลำดับที่ 3 ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้รับค่าตอบแทน 2,360,655.74 บาท
รูป 6 ปี 2554 ส่วนที่ 1 หน้าที่ 130
กรรมการที่ครบวาระ/ลาออกระหว่างปี 2553 (รับเงินรางวัลพิเศษสำหรับผลการดำเนินงานปี 2553)
ลำดับที่ 3 ชื่อ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ในตำแหน่งกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ได้รับค่าตอบแทน 528,515.17 บาท
ผมตั้งข้อสังเกตว่า ในฐานะกรรมการอิสระและประธานคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ ท่านน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว ว่ากำไรธุรกิจกลั่นน้ำมันนั้นมีมาก จนสามารถจ่ายค่าตอบแทนให้แก่กรรมการได้อย่างงาม
ทั้งนี้สถาบันปิโตรเลียมคัดค้านว่า รัฐคุมค่าการกลั่นเสี่ยงความมั่นคง จะทำให้เอกชนขาดความเชื่อมั่นในนโยบายรัฐ นั้น
ผมขอแนะนำให้ท่านนายกฯ ชั่งน้ำหนัก ระหว่างความเชื่อมั่นของบริษัทเอกชน ที่เกิดจากรัฐอุ้มให้สามารถหากำไรได้เกินปกติ …
กับความเชื่อมั่นของประชาชนในความเป็นผู้นำรัฐบาล ว่าสามารถแสดงให้ประชาชนเห็นได้หรือไม่ ว่าท่านดูแลประชาชนดีพอแล้ว
ส่วนที่มีผู้แสดงความกังวลต่อราคาหุ้นบริษัทพลังงาน นั้น
ผมขอแนะนำว่า กรณีที่บริษัทได้ตักตวงกำไรที่สูงเกินปกติไปนานหลายปี ได้ให้ประโยชน์แก่ผู้ถือหุ้นไปมากแล้ว
บัดนี้ ถึงเวลาที่รัฐควรจะเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง
ผมขอย้ำอีกครั้งว่า คปพ.ไม่ได้คัดค้านเอกชนมีกำไรในการทำธุรกิจ แต่เห็นว่ารัฐมีหน้าที่กำกับให้พอสมควร รัฐต้องแสดงต่อประชาชน ว่ากำกับให้เกิดความเป็นธรรมต่อผู้บริโภคได้ หรือไม่ อย่างไร?
ผมจึงขอเสนอแนะ ให้ท่านนายกฯ ควรจะแสดงความรับผิดชอบต่อหน้าที่อย่างเต็มที่ เพื่อประชาชนชื่นชมยกย่องและแซ่ซ้องสรรเสริญ
ที่มา : Thirachai Phuvanatnaranubala - - ธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล