บริษัทหลักทรัพย์ไทยพาณิชย์ (SCBS) ระบุในบทวิเคราะห์ (วันที่ 25 ก.ค.65 ) ว่าล่าสุดจากการศึกษาบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ที่ดูแลทั้งหมด 90 บริษัท และจากมุมมองของนักวิเคราะห์ SCBS พบว่า มีจำนวน 12 บจ. ได้แก่
มีโอกาสที่จะมีการปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 ซึ่งคิดเป็น 31% ของ Market Cap ของหุ้นที่คาดจะถูกปรับประมาณการ (68% ของกำไรรวมของหุ้นทั้งหมดที่มีโอกาสปรับประมาณการ)
ขณะที่มีจำนวน 15 บจ. มีโอกาสที่ SCBS จะปรับลดประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส2/65 ซึ่งคิดเป็น 70% ของ Market Cap. ของหุ้นที่เราคาดจะถูกปรับประมาณการ (32% ของกำไรรวมของหุ้นทั้งหมดที่มีโอกาสปรับประมาณการ)
ทั้งนี้การปรับประมาณการกำไรปีนี้ของ บจ. ดังกล่าวคาดจะมีผลกระทบต่อภาพรวมของกำไรปีนี้ค่อนข้างจำกัด และมีผลต่อเป้าหมาย SET Index ไม่มากนัก จึงมองว่า SET Index มีแนวโน้มไม่หลุด 1500 จุดจากประเด็นการปรับประมาณการครั้งนี้
โดยจากการประเมินโอกาสปรับประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส 2/65 พบว่า
ดังนั้นเมื่อพิจารณาจากโมเมนตัมกำไรที่แข็งแกร่งและยังมี Valuation ที่น่าสนใจ รวมทั้งมีโอกาสที่เราจะปรับเพิ่มประมาณการกำไรปีนี้หลังประกาศงบไตรมาส2/65 จึงแนะนำ “หาจังหวะซื้อลงทุน” สำหรับ บมจ.บางจาก คอร์ปอเรชั่น (BCP) ,บมจ.แอสเสท เวิรด์ คอร์ป (AWC) , บมจ.ดิ เอราวัณ กรุ๊ป (ERW)
ขณะที่ช่วงสั้นแนะนำ “หลีกเลี่ยงการลงทุนออกไปก่อน” สำหรับ บมจ.เอเซีย พลัส กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (ASP) , บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) ( MST), บมจ.เอ็นอาร์ อินสแตนท์ โปรดิวซ์ (NRF) , บมจ.โอสถสภา (OSP) , บมจ.โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (DTAC) เนื่องจากคาดเป็นหุ้นที่มีโอกาสสูงจะโดนตลาดปรับลดประมาณการเช่นเดียวกับ SCBS (ทั้งนี้เน้นเลือกหุ้นที่กำไรของ SCBS ใกล้กับตลาดหรือต่ำกว่าตลาดอยู่แล้ว)