นายยุวพล วัตถุ ผู้ช่วยผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เปิดเผยว่า ธ.ก.ส. พร้อมเติมทุนสนับสนุนผู้ผลิตกัญชาตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลายน้ำ และการผลิตเพื่อการแพทย์ทางเลือก ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อการผลิตกัญชา วงเงินรวมกว่า 5,000 ล้านบาท
อัตราดอกเบี้ย MLR + ตามชั้นความเสี่ยง กรณีกู้เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายหมุนเวียนในการผลิต กำหนดระยะเวลาชำระคืนภายใน 12 เดือน พิเศษ ไม่เกิน 18 เดือน กรณีกู้เป็นค่าลงทุนในการผลิต กำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี และกรณีเพื่อชำระหนี้สินเดิม (Refinance) จากการลงทุนสร้างโรงเรือนและมีหลักประกันจำนอง กำหนดชำระคืนภายใน 5 ปี ระยะเวลาโครงการตั้งแต่บัดนี้จนถึง 31 ธันวาคม 2568
สำหรับคุณสมบัติผู้กู้ ดังนี้
-ต้องเป็นวิสาหกิจชุมชน วิสาหกิจเพื่อสังคมและสหกรณ์การเกษตรที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย
-ผู้ที่เกี่ยวข้องในการผลิตต้องไม่เคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับยาเสพติด และต้องผ่านการอบรมหลักสูตรการปลูกพืชกัญชา มีการจัดทำบันทึกข้อตกลง (MOU) ในการดำเนินการภายใต้ความร่วมมือและกำกับดูแลโดยหน่วยงานของรัฐหรือสถาบันอุดมศึกษา
-มีใบอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และดำเนินการผลิตด้วยเกษตรอินทรีย์ (Organic Farming) หรือการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (Good Agricultural Practices: GAP) ตามมาตรฐานการปฏิบัติงาน (Standard Operation Procedure : SOP)
นายยุวพล ยังกล่าวอีกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีสภาพอากาศเหมาะสมในการปลูกกัญชา-กัญชงบางสายพันธุ์ โดยสามารถนำผลผลิตไปใช้ประโยชน์ได้ทุกส่วน อาทิ ช่อดอก เมล็ด เปลือกลำต้น และราก
นอกจากนั้นยังสามารถต่อยอดการแปรรูปกัญชาไปสู่ผลิตภัณฑ์อื่น ๆ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม เช่น น้ำมันสกัด ยาแผนไทย ผลิตภัณฑ์สุขภาพ กระดาษ สิ่งทอ และวัตถุดิบในอาหาร/เครื่องดื่ม เป็นต้น โดยคาดว่า แนวโน้มมูลค่าตลาดกัญชาโลกจะเติบโตและขยายไปในหลายธุรกิจ
พร้อมยกตัวอย่าง วิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ อำเภอคูเมือง จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งดำเนินธุรกิจในการปลูกกัญชา แปรรูปกัญชา นำเข้าและส่งออกผลิตภัณฑ์กัญชา ทั้งในรูปแบบใบชา ยาแผนไทยและแผนปัจจุบัน ภายใต้ “บุรีรัมย์โมเดล” ร่วมกับโรงพยาบาลนาโพธิ์และโรงพยาบาลคูเมือง
ซึ่งเริ่มต้นจากการรวมกลุ่มของสมาชิกที่มีความสนใจและความรู้ในด้านการปลูกพืชสมุนไพรกว่า 50 คน โดยร่วมมือกับไร่อรุณฟาร์มที่เชี่ยวชาญในการปลูกเมล่อนแบบไร้สารพิษ ในการพัฒนาพื้นที่ไปสู่ศูนย์ผลิตสมุนไพรทางการแพทย์
โดยวิสาหกิจชุมชนผลิตสมุนไพรเพื่อการแพทย์ อำเภอคูเมือง มีการปลูกกัญชาออร์แกนิคกว่า 4 สายพันธุ์ในระบบโรงเรือนแบบปิด รอบละ 120 ต้น สามารถเก็บผลผลิตได้ทุก 3 เดือน ได้ผลผลิตช่อดอก 15 กิโลกรัม และสามารถจำหน่ายได้กว่า 2,250,000 บาทต่อรอบ
และการปลูกระบบ Green House รอบละ 120 ต้น เก็บผลผลิตได้ทุก 6 เดือน ได้ผลผลิตช่อดอก 30 กิโลกรัม และสามารถจำหน่ายได้กว่า 3,000,000 บาทต่อรอบ ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อในการผลิตและการต่อยอดไปสู่การแปรรูปต่าง ๆ เพื่อให้วิสาหกิจชุมชนได้เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในตลาดกัญชา
ปัจจุบัน ธ.ก.ส. ได้สนับสนุนสินเชื่อเพื่อการผลิตกัญชาไปแล้วกว่า 7.1 ล้านบาท และคาดว่าตลาดพืชสมุนไพร ทั้งกัญชาและกัญชงจะเป็นความหวังและโอกาสใหม่ให้กับภาคเกษตรกรรมไทยไปสู่การยกระดับชีวิตเกษตรกรให้เติบโตอย่างยั่งยืนภายใต้หลัก BCG ต่อไป