ดาวโจนส์ปิดร่วง 402.23 จุด รับข่าว"แนนซี เพโลซี"เยือนไต้หวัน

02 ส.ค. 2565 | 23:41 น.
อัปเดตล่าสุด :03 ส.ค. 2565 | 07:01 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 400 จุดในวันอังคาร (2 ส.ค.) นักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดด้านการเมืองระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเดินทางเยือนไต้หวันและสร้างความไม่พอใจให้กับจีน

 ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 32,396.17 จุด ร่วงลง 402.23 จุด หรือ -1.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,091.19 จุด ลดลง 27.44 จุด หรือ -0.67% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,348.76 จุด ลดลง 20.22 จุด หรือ -0.16%

 

กระทรวงการต่างประเทศจีนออกแถลงการณ์ประณามสหรัฐทันทีที่นางเพโลซีเดินทางถึงไต้หวันในช่วงค่ำวานนี้ โดยระบุว่าเป็นการละเมิดหลักการจีนเดียว ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อรากฐานความสัมพันธ์ทางการเมืองระหว่างจีนและสหรัฐ รวมทั้งละเมิดอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนของจีน อีกทั้งยังทำลายเสถียรภาพและสันติภาพในช่องแคบไต้หวัน
         

แถลงการณ์ดังกล่าวระบุว่า จีนคัดค้านและไม่สามารถยอมรับการเดินทางเยือนไต้หวันของสมาชิกรัฐสภาสหรัฐ รวมถึงการเดินทางของนางเพโลซี ซึ่งเป็นประธานสภาคองเกรส โดยจีนจะใช้มาตรการทุกอย่างที่จำเป็นเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดนเพื่อตอบโต้การเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี และสหรัฐจะต้องรับผิดชอบต่อผลที่เกิดขึ้นทั้งหมด รวมทั้งยุติการแทรกแซงกิจการภายในของจีน

ทั้งนี้ ความวิตกกังวลเกี่ยวกับสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีนส่งผลให้ตลาดหุ้นสหรัฐร่วงลง โดยหุ้นทั้ง 11 กลุ่มที่คำนวณในดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ นำโดยดัชนีหุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ร่วงลง 1.3% โดยหุ้นโจนส์ แลง ลาซาลล์ ดิ่งลง 2.56% หุ้นอเมริกัน เรียลตี้ อินเวสเตอร์ส ลดลง 0.20% หุ้นอาร์มาดา ฮอฟเฟอร์ พร็อพเพอร์ตีส์ ร่วงลง 1.20%
         

ดัชนีหุ้นกลุ่มธนาคารดิ่งลง 1.07% ซึ่งเป็นการปรับตัวลงต่อเนื่องจากวันจันทร์ โดยหุ้นเจพีมอร์แกน ร่วงลง 1.63% หุ้นมอร์แกน สแตนลีย์ ปรับตัวลง 0.67% หุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ร่วงลง 2.02% หุ้นโกลด์แมน แซคส์ ร่วงลง 1.32%
         

หุ้นแคทเธอร์ พิลลาร์ ซึ่งบริษัทผลิตเครื่องมือก่อสร้างขนาดใหญ่ที่สุดในโลก ร่วงลง 5.86% หลังจากบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 อยู่ที่ระดับ 1.425 หมื่นล้านดอลลาร์ ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 1.428 หมื่นล้านดอลลาร์
         

หุ้นเอสเต้ ลอเดอร์ ผู้ผลิตเครื่องสำอางรายใหญ่ของสหรัฐ ร่วงลง 1.85% หลังจากวอลล์สตรีท เจอร์นัลรายงานว่า เอสเต้ ลอเดอร์ กำลังเจรจาซื้อกิจการบริษัททอม ฟอร์ด (Tom Ford) ซึ่งเป็นแบรนด์แฟชั่นหรูระดับโลก โดยคาดว่าวงเงินการซื้อกิจการครั้งนี้จะสูงถึง 3 พันล้านดอลลาร์

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มผลิตอาวุธพุ่งขึ้น ท่ามกลางสถานการณ์ตึงเครียดระหว่างสหรัฐและจีน โดยนอร์ธรอป กรัมแมน (Northrop Grumman) พุ่งขึ้น 1.04% หุ้นล็อคฮีด มาร์ติน (Lockheed Martin) พุ่งขึ้น 2.27% หุ้นเรย์เธียน เทคโนโลยีส์ (Raytheon Technologies) ดีดขึ้น 0.22% หุ้นเจเนอรัล ไดนามิกส์ (General Dynamics) เพิ่มขึ้น 0.29% หุ้นแอลทรีแฮร์ริส เทคโนโลยส์ (L3Harris Technologies) พุ่งขึ้น 1.23%
         

หุ้นอูเบอร์ เทคโนโลยีส์ ทะยานขึ้น 18.90% หลังบริษัทเปิดเผยรายได้ในไตรมาส 2 ที่ระดับ 8.07 พันล้านดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 7.39 พันล้านดอลลาร์
         

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในวันนี้ ซึ่งรวมถึงสตาร์บัคส์, เพย์พาล และแอดวานซ์ ไมโคร ดิไวซ์ (เอเอ็มดี)
         

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรและอัตราว่างงานประจำเดือนก.ค.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อเป็นสัญญาณบ่งชี้ทิศทางอัตราดอกเบี้ยครั้งต่อไปของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)