กองบัญชาการยุทธภูมิฝั่งตะวันออกของ กองทัพจีน (PLA) โพสต์ข้อความลงในเว่ยป๋อ (Weibo) ซึ่งเป็นสื่อสังคมออนไลน์ของ จีน วานนี้ (1 ส.ค.) เนื้อหาระบุว่า "เราจะเผชิญหน้าศัตรูของเราด้วยอาวุธครบมือ เราจะเชื่อฟังคำสั่งและจะเข้าสู่สงคราม พร้อมกับฝังศัตรูผู้บุกรุก โดยเราจะมุ่งหน้าไปสู่ชัยชนะ" หลังมีข่าว นางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ อาจเดินทางถึง ไต้หวัน คืนวันนี้ (2 ส.ค.)
PLA โพสต์ข้อความดังกล่าว พร้อมกับคลิปวิดีโอแสดงแสนยานุภาพของเครื่องบินรบและขีปนาวุธของจีน
ทั้งนี้ ในวันเดียวกันนายจ้าว ลี่เจียน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงว่า การเดินทางเยือนไต้หวันของนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐที่กำลังเดินทางเยือนประเทศในภูมิภาคเอเชียเริ่มตั้งแต่วันจันทร์ (1 ส.ค.) จะนำมาซึ่งผลกระทบที่รุนแรง "เราขอบอกสหรัฐอีกครั้งว่า จีนกำลังจับตามอง และกองทัพปลดปล่อยประชาชนจีน (PLA) จะไม่นั่งเฉย จีนจะทำการตอบโต้อย่างรุนแรงเพื่อปกป้องอธิปไตยและบูรณภาพเหนือดินแดน"
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า PLA จะใช้มาตรการใดในการตอบโต้สหรัฐ นายจ้าวกล่าวว่า ถ้านางเพโลซีกล้าที่จะไปไต้หวัน ก็ให้ทุกคนรอดูแล้วกัน
นิกเกอิ เอเชีย ซึ่งเป็นสื่อใหญ่ของญี่ปุ่นรายงานว่า กองทัพสหรัฐได้ส่งเครื่องบินรบ รวมทั้งเรือบรรทุกเครื่องบินหลายลำเข้าใกล้ช่องแคบไต้หวัน เพื่อเตรียมการรักษาความปลอดภัยให้กับเครื่องบินของนางเพโลซีหากมีการเยือนไต้หวัน
ทั้งนี้ นางเพโลซีได้เดินทางถึงสิงคโปร์แล้วเมื่อวันจันทร์ (1 ส.ค.) โดยกำหนดการเดินทางเยือนเอเชียของเธอนั้น รวมถึง มาเลเซีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่นด้วย อย่างไรก็ดี ไม่มีการระบุถึงการเดินทางเยือน “ไต้หวัน” ในกำหนดการเดินทางของนางเพโลซีแต่อย่างใด
แต่สื่อหลายสำนักรายงานว่า นางเพโลซีอาจเดินทางถึงไต้หวันในคืนวันอังคาร ก่อนที่จะเข้าพบประธานาธิบดีไช่ อิงเหวิน ผู้นำไต้หวัน ในวันพุธ(3 ก.ค.)
สำหรับท่าทีของกองทัพสหรัฐนั้น แรก ๆ ก็ได้แสดงความเห็นคัดค้านการเดินทางเยือนไต้หวันของนางเพโลซี แต่ล่าสุดกลับมีท่าทีเปลี่ยนไป โดยพร้อมที่จะปกป้องเครื่องบินของนางเพโลซี หากมีการตัดสินใจเยือนไต้หวัน โดยพลเอกมาร์ค มิลลีย์ ประธานคณะเสนาธิการทหารสหรัฐ กล่าวว่า "เราจะดำเนินการในสิ่งที่จำเป็นเพื่อปกป้องความปลอดภัยในการเดินทางของท่านประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ"
สำนักข่าวเอพีรายงานว่า ตามปกติ เมื่อบุคคลระดับสูงของสหรัฐเดินทางเยือนต่างประเทศ จะมีการเพิ่มการอารักขาเป็นปกติ แต่เจ้าหน้าที่กล่าวว่า หากเพโลซีเยือนไต้หวันในฐานะเจ้าหน้าที่สูงสุดฝ่ายนิติบัญญัติของสหรัฐ เธอจะเป็นเจ้าหน้าที่จากการเลือกตั้งที่มีตำแหน่งสูงสุดของสหรัฐที่เดินทางไปไต้หวันในรอบ 25 ปี เเหล่งข่าวกล่าวว่า หากพิจารณาถึงความเสี่ยงของจุดหมายปลายทางครั้งนี้ นั่นหมายความว่าจะมีการยกระดับการให้ความปลอดภัยมากกว่าปกติ
ขณะเดียวกัน ทางด้านทำเนียบประธานาธิบดีและกระทรวงการต่างประเทศไต้หวันได้ออกมาปฏิเสธที่จะแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวท่ามกลางกระแสความร้อนระอุของสถานการณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข่าวการเยือนไต้หวันของนางเพโลซีได้สร้างความไม่พอใจให้กับจีนเป็นอย่างมาก
สำนักข่าวเกียวโด สื่อใหญ่ของญี่ปุ่น ซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่นางเพโลซีมีกำหนดการเดินทางเยือนในครั้งนี้ รายงานว่า เดิมนางเพโลซีมีแผนเดินทางเยือนไต้หวันในเดือนเม.ย.ที่ผ่านมา แต่จำเป็นต้องเลื่อนแผนดังกล่าวออกไปหลังติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งในครั้งนั้นเมื่อมีข่าวออกมา จีนก็ได้ออกมาคัดค้านและเตือนอย่างแข็งกร้าวแล้วว่า ถ้านางเพโลซีเยือนไต้หวันก็จะเท่ากับทำลายอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของจีน เพราะจีนถือว่า ไต้หวันเป็นเขตปกครองพิเศษของจีนภายใต้นโยบาย “หนึ่งประเทศ สองระบบ” ดังนั้น การเยือนไต้หวันของบุคคลระดับสูงในรัฐบาลสหรัฐที่เคยมีพันธะสัญญาว่าจะไม่ยอมรับรัฐบาลไต้หวันอย่างเป็นทางการ เท่ากับเป็นการแสดงความสนับสนุนไต้หวันอย่างเปิดเผย ซึ่งจีนไม่อาจยอมรับได้