ดาวโจนส์ปิดลบ 139 จุด วิตกเฟดเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย-เศรษฐกิจโลกถดถอย

16 ก.ย. 2565 | 23:50 น.
อัปเดตล่าสุด :17 ก.ย. 2565 | 06:56 น.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลง 139.40 จุดในวันศุกร์ (16 ก.ย.) ถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของเฟดในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ และ IMF เตือนเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,822.42 จุด ลดลง 139.40 จุด หรือ -0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,873.33 จุด ลดลง 28.02 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,448.40 จุด ลดลง 103.95 จุด หรือ -0.90%

 

ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ ร่วงลง 4.1%, ดัชนี S&P500 ร่วง 4.8% และดัชนี Nasdaq ร่วงลงราว 5.5%

ดัชนีหุ้นทั้งสามตัวปรับตัวลงแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่กลางเดือนก.ค. โดยดัชนี S&P 500 ปิดลดลงต่ำกว่าระดับ 3,900 ซึ่งเป็นระดับแนวรับสำคัญ ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงรายสัปดาห์คิดเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
          

หุ้น 9 ใน 11 กลุ่มของดัชนี S&P500 ปิดในแดนลบ ขณะที่หุ้นกลุ่มพลังงานและกลุ่มอุตสาหกรรม ร่วงลงเป็นเปอร์เซ็นต์มากที่สุด และดัชนีดาวโจนส์กลุ่มการขนส่ง ซึ่งเป็นตัวชี้วัดภาวะเศรษฐกิจ ร่วงลง 5.1% 

ตลาดหุ้นสหรัฐถูกกดดันจากความวิตกเกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในการประชุมนโยบายการเงินวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
          

การที่บริษัทเฟดเอ็กซ์ คอร์ป ยกเลิกการคาดการณ์ผลประกอบการทั้งปีเมื่อวันพฤหัสบดี โดยระบุถึงสัญญาณของอุปสงค์ทั่วโลกที่ชะลอตัวลงนั้น ได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขายด้วย ขณะที่ตลาดถูกกดดันอยู่แล้วจากความเห็นของธนาคารโลกและกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ที่เตือนเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก

 

นอกจากนี้ ตลาดยังปรับตัวลงหลังจากการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่ง ซึ่งตอกย้ำการคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างน้อย 0.75% ในการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้
          

ข้อมูลล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า ตลาดการเงินปรับตัวรับโอกาส 18% ที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นมากถึง 1% ในวันพุธหน้า
          

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญของสหรัฐที่มีการเปิดเผยในวันศุกร์ได้แก่ ผลสำรวจของมหาวิทยาลัยมิชิแกนซึ่งระบุว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 59.5 ในเดือนก.ย. จากระดับ 58.6 ในเดือนส.ค. แต่ต่ำกว่าตัวเลขเบื้องต้นที่ระดับ 60.0