FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย กดดันดัชนี SET ปลายปีคาด1,652 จุด จับตาประชุม กนง.28 ก.ย.

22 ก.ย. 2565 | 04:08 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2565 | 11:22 น.

ส่องไทมไลน์เฟดเร่งขึ้นดอกเบี้ยช่วงที่เหลือ กดดันตลาดทั่วโลกผันผวน จับตาประชุม กนง. 28 ก.ย.นี้ อาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายมากกว่า 0.25% ตลาดหุ้นไทยปลายปีเหลือ 1652 จุด

บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซียพลัส ( ASPS ) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ ( 22 กันยายน ) ว่า จากกรณีธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติปรับอัตราดอกเบี้ย 0.75% ตามตลาดคาด ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐ ปรับขึ้นจาก 2.25-2.50% เป็น 3.00-3.25% ขณะที่อัตราดอกเบี้ยนโยบายไทยยังอยู่ที่ 0.75% ส่งผลให้ Spread อัตราดอกเบี้ยระหว่างสหรัฐ-ไทย ห่างมากขึ้นถึง 2.5% กว้างสุดนับตั้งแต่วิกฤตซับไพร์ม 

 

การประชุมในครั้งนี้ Fed ได้ส่งสัญญาณว่าในปลายปี 2565 จะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็น 4.40% (ตัวเลข Dot-Plot) ซึ่งสูงกว่าที่คาดไว้ที่ 3.4% ในเดือน มิ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์ก็ต่างคาดว่า Fed จะยังคงขึ้นดอกเบี้ยต่อ แต่อัตราเร่งอาจจะชะลอลง โดยเมื่อดูจาก Fed Watch Tool จะเห็นได้ว่า มีโอกาสปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือน พ.ย.65 และ ธ.ค.65 ครั้งละ 0.75% และ 0.50% ตามลำดับ ซึ่งจะทำให้ดอกเบี้ยปลายปีของสหรัฐจะอยู่ที่ 4.50%  (ภาพประกอบ"ไทม์ไลน์การขึ้นดอกเบี้ยเฟด" )

 

FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย กดดันดัชนี SET ปลายปีคาด1,652 จุด จับตาประชุม กนง.28 ก.ย.

อย่างไรก็ตาม Fed ยังมุ่งมั่นที่จะลดอัตราเงินเฟ้อให้กลับมาอยู่ที่เป้าหมาย 2% ทำให้ทาง Fed มองว่าในปี 2566 จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยถึง +4.6%
 

 

FED เร่งขึ้นดอกเบี้ย กดดันดัชนี SET ปลายปีคาด1,652 จุด จับตาประชุม กนง.28 ก.ย.

 

นอกจากนี้ Fed ยังได้คาดการณ์ตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐที่สำคัญ อาทิ
 

  • อัตราการว่างงาน คาดว่าจะเพิ่มขึ้นจากปีนี้ที่ระดับ 3.8%YoYสู่ระดับ 4.4% YoY ทั้งในปี 2566 และ 2567 ก่อนที่จะชะลอตัวลงสู่ระดับ 4.3%YoY ในปี 2568
  • อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (CPI) คาดว่าจะสูงขึ้นจากปี 2565 และ 2565 ที่ระดับ4.3%YoY และ 2.7%YoY(คาดการณ์เดือนมิ.ย.)สู่ระดับ 4.5%YoY และ 3.1% YoY
  •  GDP ที่มีการปรับลดการคาดกาณ์ลดลงเหลือ 0.2%YoY ในปี2565 และปรับสูงขึ้นเป็น 1.2%YoY ในปี2566

 

การขึ้นดอกเบี้ยของ FED รอบนี้ ยังกดดันตลาดหุ้นไทยผันผวน  กดดันให้ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยกับสหรัฐกว้างขึ้น ล่าสุดดอกเบี้ยไทยต่ำกว่าสหรัฐ -2.5% (ดอกเบี้ยไทย 0.75% สหรัฐ 3.25%) และจาก Dot Plot ปลายปีดอกเบี้ยสหรัฐมีโอกาสขึ้นมาอยู่ที่ 4.5% และภายใต้ถ้ากนง.ขึ้นดอกเบี้ย
ปลายปีอยู่ที่ (1.25% - 1.5%) กดดันให้ส่วนต่างดอกเบี้ยไทยและสหรัฐกว้างขึ้น ส่งผลให้ค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าขึ้นได้เช่นกัน ล่าสุดทะลุ 37 บาท/เหรียญ (อ่อนค่าสุดในรอบ16 ปี)

ประเด็นดังกล่าวอาจสร้างความกังวลว่า กนง. มีโอกาสเร่งขึ้นดอกเบี้ยในวันที่ 28 ก.ย.นี้ มากกว่าคาด (เดิมคาดกนง. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25%) โดยฝ่ายวิจัยฯ ประเมินถ้ามีการขึ้น ดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น 0.25% จะกดดันเป้าหมายดัชนีลดลงราว 78 จุด หรือจากดัชนีเป้าหมายปลายปี 1730 จุด เหลือ 1652 จุด

 

สรุปคือ แรงกดดันการเร่งขึ้นดอกเบี้ยของ Fed ในช่วงที่เหลือของปี บวกกับความกังวล การขึ้นเร่งขึ้นดอกเบี้ยของกนง. ในสัปดาห์หน้า 0.5% เพื่อช่วยสร้างเสถียรภาพเงินบาท น่าจะกดดันให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาผันผวนในช่วงสั้น

 

กลยุทธ์เพื่อรับมือกับตลาดหุ้นไทยมีโอกาสกลับมาผันผวนช่วงสั้น แนะนำ

 

  • หุ้นได้ประโยชน์หรือมีเกราะป้องกันดอกเบี้ยขาขึ้น (BBL, KBANK, BLA) และ
  • หุ้นอิงกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศ (ERW, HMPRO, BEM, AOT) ส่วน Top pick วันนี้เลือก BBL, BLA, ERW