ค่าเงินบาทอ่อน นักวิชาการ ประเมินแนวโน้มระยะสั้นยังน่าห่วง

22 ก.ย. 2565 | 22:58 น.
อัปเดตล่าสุด :22 ก.ย. 2565 | 23:58 น.

สถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อน ยังคงน่าเป็นห่วง นักวิชาการจากทีดีอาร์ไอ ประเมินระยะสั้นค่าเงินบาทมีแนวโน้มอ่อนค่าลงไปอีก หลัง เฟด มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อย แนะภาคธุรกิจของไทยเฝ้าระวังเรื่องเงินเฟ้อในประเทศ และราคาสินค้านำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น

จากสถานการณ์ค่าเงินบาทล่าสุด เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2565 อ่อนค่าลงในช่วงระหว่างวันอยู่ที่ 37.45 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นระดับอ่อนค่าสุดในรอบเกือบ 16 ปี นับตั้งแต่เดือนตุลาคม 2549 ก่อนจะกลับมาปิดตลาดที่ระดับ 37.36 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ

 

ด้วยสถานการณ์ค่าเงินบาทอ่อนค่าครั้งนี้ ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) ประเมินสถานการณ์ดังกล่าวกับฐานเศรษฐกิจว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มที่จะขึ้นดอกเบี้ยไปเรื่อย ๆ จนถึงระดับประมาณ 4.5-5% 

 

ในขณะที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะพิจารณาปรับดอกเบี้ยนโยบายที่ช้ากว่า ทำให้ภาพรวมในระยะสั้นค่าเงินบาทมีแนวโน้มที่ค่าเงินจะอ่อนค่าลงไปอีก

อย่างไรก็ดีมองว่า เศรษฐกิจไทยในปัจจุบันจนถึงปีหน้าจะอยู่ในช่วงการฟื้นตัวจากภาคท่องเที่ยวที่คาดว่าจะดีขึ้นเรื่อย ๆ ในขณะที่ภาคส่งออก ก็น่าจะเติบโตแต่ไม่โดดเด่นมากเท่าในช่วงที่ผ่านมา ทำให้มีโอกาสที่ค่าเงินในระยะกลางจะกลับมาแข็งค่าที่ประมาณ 34-35 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯ 

 

“คิดว่าจุดสำคัญนอกจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว คือ ค่าเงินที่อ่อนมากจะเป็นโอกาสที่ไทยจะจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในบ้านเราในช่วงนี้ เพราะเสมือนเม็ดเงินที่ลงทุนจะถูกลงมาก ถ้าไทยดึงเม็ดเงินลงทุนจากต่างชาติเข้ามาได้เร็ว ค่าเงินในระยะสั้นจะไม่อ่อนค่ามากและจะทำให้ค่าเงินบาทสามารถเข้าสู่ภาพในระยะกลางคือ ค่อย ๆ กลับมาแข็งค่าได้ดีขึ้น” ดร.นณริฏ ระบุ

ส่วนข้อแนะนำที่นักภาคธุรกิจต้องเตรียมตัวรองรับนั้น ดร.นณริฏ แนะนำว่า เศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงมากในปีหน้า ไม่ว่าจะเป็นตลาดสหรัฐ ยุโรป จีน หรือ ญี่ปุ่น ดังนั้นในส่วนของนักลงทุนองคงต้องมองในเรื่องของสินทรัพย์ที่เหมาะสม และการหาจังหวะถือเงินสดเพื่อรอการลงทุนในช่วงที่จังหวะดี

 

นอกจากนี้ภาคธุรกิจของไทยเองยังต้องระวังเรื่องเงินเฟ้อในประเทศ และราคาสินค้านำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ที่อาจจะเพิ่มขึ้นตามดอกเบี้ยนโยบายด้วย