นายเซอิจิโระ อาคิตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่าธนาคารกรุงศรีคาดว่าในปี2566เงินให้สินเชื่อจะเติบโตที่ 3 -5% และตั้งเป้าส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิ (NIM) อยู่ที่3.3- 3.5%
คาดว่ารายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ย (Non-Interest Income) จะยังอยู่ในระดับเดียวกับปีที่ผ่านมา และอัตราส่วนสินเชื่อที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL Ratio) อยู่ที่ 2.5-2.6%จากสิ้นปีก่อนอยู่ที่ 2.32%
ทั้งนี้ ในรอบปี2565 ธนาคารกรุงศรียังคงช่วยเหลือลูกค้าเชิงรุก โดยมีลูกค้าภายใต้มาตรการช่วยเหลือต่างๆคิดเป็นเงินให้สินเชื่อคงเหลือกว่า 150,000 ล้านบาท และอีกกว่า 16,000 ล้านบาทในรูปของโครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft loan) และสินเชื่อเพื่อการฟื้นฟูธุรกิจ
พร้อมสานต่อความสำเร็จ 4ด้าน จากแผนระยะกลางระหว่างปี 2564-2565ประกอบด้วย
1.การยกระดับฐานะของกรุงศรีในภูมิภาคอาเซียนอย่างต่อเนื่องผ่านความร่วมมือ ทางธุรกิจกับSB Finance ในฟิลิปปินส์,SHB Financeในเวียดนาม
พร้อมพัฒนาโครงข่ายเชื่อมโยงอินโดนีเซีย สิงคโปร์ อย่างต่อเนื่อง รวมถึงการยกระดับสถานะของHattha Bankเป็นธนาคารพาณิชย์ในกัมพูชา ทำให้ในปี2565สามารถทำรายได้สุทธิจากการดำเนินงานเป็น6%ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก3%ปี2563พร้อมเพิ่มเป็น 10%ในสิ้นปี2566
การสร้างระบบนิเวศ(ecosystem)และการร่วมเป็นพันธมิตร(Partnership)
3.ยกระดับสถานะของกรุงศรีด้านความยั่งยืน(ESG) โดยธนาคารกรุงศรีเดินหน้าตามเป้าหมายลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์จากการดำเนินงานของธนาคารภายในปี2573และสนับสนุนให้ลูกค้าทุกกลุ่มมีส่วนร่วมด้านESGขณะเดียวกันธนาคารมีเป้าหมายจะเพิ่มการสนับสนุนทางการเงินให้แก่โครงการธุรกิจเพื่อสังคมและความยั่งยืนเป็น 50,000 – 100,000 ล้านบาทภายในปี 2573โดยสิ้นปี2565สามารถระดมทุนและปล่อยสินเชื่อแล้ว 30,000ล้านบาท
และ4.สร้างการเติบโตทางธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและนวตกรรมโดยเตรียมงบลงทุน11,000ล้านบาทเพื่อการลงทุนที่สอดคล้องกับเป้าหมายสูอนาคตจาก 7,400ล้านบาทสิ้นปีที่ผ่านมา
"แม้ปีนี้ยังมีความท้าทายและมีความเสี่ยงธนาคารพร้อมจะให้ความช่วยเหลือลูกค้าและมองเห็นโอกาสทั้งในไทยและภูมิภาคอาเซียน ยังเป็นภูมิภาคที่เติบโตเร็วที่สุด"นายเซอิจิโระ อาคิตะกล่าว
นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร BAY กล่าวเพิ่มเติมว่า จุดแข็งของกรุงศรีในตลาดภูมิภาคอาเซียนมี3ส่วนคือ 1.BAYออกไปทำธุรกิจจริงใช่เพียงแค่ขยายสาขา
2.การมีพาร์ทเนอร์แบงก์ท้องถิ่นในแต่ละประเทศ (เวียดนาม อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์) ซึ่งมีความเก่งทั้งด้านรีเทล และคอร์ปอเรตที่เอื้อต่อการดำเนินธุรกิจของBAYและ3.สร้างความเชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนครอบคลุม 4เรื่อง
ทั้งนี้ กรุงศรีตั้งเป้าที่จะผนึกกำลังธุรกิจต่าง ๆ ในอาเซียนภายใต้กลยุทธ์ One Krungsri เพื่อสร้างมูลค่าให้กับลูกค้าในประเทศไทยและอาเซียน ด้วยเป้าหมายดังกล่าวจะทำให้เกิดบริการทางการเงินที่สำคัญ
อาทิ บริการโอนเงิน การลงทุนในต่างประเทศ บริการที่ปรึกษา และบริการอื่น ๆ อย่างบัตรเครดิตที่จะเข้าถึงผู้ใช้มากขึ้นด้วยการนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ลูกค้า
นอกจากนี้ธนาคารยังมุ่งขับเคลื่อนเพื่อบรรลุสู่เป้าหมายในการสร้างรายได้สุทธิจากการดำเนินธุรกิจในอาเซียนให้เป็น 10%
นายเซอิจิโระ อาคิตะ (กลาง) กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จํากัด (มหาชน) พร้อมด้วยนางสาวดวงดาว วงค์พนิตกฤต (2 จากซ้าย) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านการเงิน ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) นายไพโรจน์ ชื่นครุฑ (2 จากขวา) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านกลยุทธ์และวางแผนธุรกิจองค์กร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) นายสยาม ประสิทธิศิริกุล (ซ้ายสุด) ประธานกลุ่มสนับสนุนธุรกิจด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและดิจิทัล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และนายประกอบ เพียรเจริญ (ขวาสุด) ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านลูกค้าธุรกิจขนาดใหญ่และวาณิชธนกิจ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)