มร.ลาร์ส ไฮบุทสกี้ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบมจ.อลิอันซ์ อยุธยาประกันภัยกล่าวว่าภาพรวมประกันวินาศภัยปี2566มองว่ามีปัจจัยบวกมากกว่าปีที่แล้ว
แต่ยอมรับว่ายังมีความไม่แน่นอน และสถานการณ์สงครามในรัสเซียและปัญหาอัตราเงินเฟ้อในสหรัฐและยุโรป เหล่านี้นอกจากมีผลต่อเศรษฐกิจโลกยังเป็นความเสี่ยงต่อธุรกิจประกันวินาศภัย
ส่วนทิศทางการดำเนินธุรกิจปี 2566 บริษัทตั้งเป้า สร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม 1.02หมื่นล้านบาท โดยมาจาก ประกันภัยรถยนต์ 32% ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ 34% และประกันสุขภาพ34%โดยในส่วนของประกันสุขภาพนั้นเพิ่มขึ้นอย่างมาก ภายหลังควบรวมกิจการเอ็ทนา (ประเทศไทย)
"ด้วยเงินกองทุนสูง 365%เพียงพอต่อการเติบโต สามารถแข่งขันและบริหารจัดการใน 3กลุ่มโปรดักต์ คาดว่าสิ้นปีจะขยายฐานลูกค้าเป็น 1.1ล้านรายคิดเป็นอัตราการเติบโต9-10%"
ทั้งนี้ บริษัทมุ่งเติบโตทั้ง ประกันภัยรถยนต์ประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์รวมทั้งประกันสุขภาพผ่าน 3 กลยุทธ์หลักได้แก่
1.Growth Engine สร้างการเติบโตผ่าน 4ช่องทางการขายหลักตอบโจทย์ ลูกค้าทั้งรายเดี่ยว SME และลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ (ผ่านทีมผู้เชี่ยวชาญของกลุ่มอลิอันซ์ ทั้งในประเทศ และระดับโลก ในโครงการใหญ่)
โดยบริษัทฯตั้งเป้าขยายธุรกิจทั่วประเทศผ่าน ช่องทางตัวแทน
ปัจจุบัน1,500คน สาขากว่า 30สาขาทั่วประเทศ โดยเฉพาะต่างจังหวัดที่สามารถเติบโตได้ดี รวมถึงโบรกเกอร์ (Agency & Broker) ช่องทางพันธมิตร (FI & Partnership) เน้นการขยายความร่วมมือและมอบโซลูชั่นส์ที่ปรับให้เหมาะสมกับลูกค้าแต่ละราย ให้กับสถาบันการเงิน ธนาคาร
และธุรกิจเช่าซื้อรถยนต์ต่างๆ ช่องทางขายตรงสำหรับประกันสุขภาพ (Direct to Customer) เน้นการขายประกันสุขภาพผ่านเครือข่ายและทีมงานผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ และยังคงมุ่งมั่นขยายธุรกิจทีมช่องทางธุรกิจ (Commercial Business) เน้นให้ความคุ้มครองลูกค้ารายใหญ่
2.Business Platform ยกระดับรูปแบบแพลตฟอร์มส่งประสบการณ์ลูกค้าเหนือระดับโดยวัดความพึงพอใจอย่างที่ผ่านมาอยู่ที่ 4.8% โดยเฉพาะสร้างความแตกต่างในการเคลม โดยนำดิจิตอลหรือนวัตกรรมมาอำนวยความสะดวกความรวดเร็วให้กับลูกค้า
อีกทั้งยังมุ่งเดินหน้าร่วมมือกับพัฒนาพัฒนาบริการ ไม่ว่าจะเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ในทุกจังหวัด500แห่งและบริษัทสำรวจภัย ซึ่งเป็นด่านหน้าในการให้บริการลูกค้า อีกทั้ง ยังมีการนำเทคโนโลยี AI เข้ามาช่วยเสริมความสะดวกให้กับลูกค้าผ่านระบบการเคลมด้วยตัวเองผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งจะสามารถอนุมัติการเคลมได้จบกระบวนการใน 3 นาที ทำให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่รวดเร็วและเพิ่มความพอใจในภาพรวม
3.Future Positioning สร้างอนาคตสู่ความแข็งแกร่งและยั่งยืน ด้วยการให้ความสำคัญกับวัฒนธรรมองค์กร ความผูกพันของพนักงาน นอกจากนั้น ยังมุ่งใส่ใจการดำเนินธุรกิจที่สร้างความยั่งยืน สร้างให้เกิดการมีส่วนร่วมของพนักงานในการใส่ใจสิ่งแวดล้อมและดูแลสังคม
อนึ่ง ผลการดำนินงาน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา บริษัทฯได้ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม สร้างผลงานเบี้ยประกันภัยรวมเกินกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยสร้างเบี้ยประกันภัยรับรวม 6.7 พันล้าน เติบโตอยู่ที่ 17 %
ในขณะที่ตลาดประกันวินาศภัยเติบโตเพียงแค่ 3.6%
โดยจากเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งหมด มาจากช่องทางธนาคารและพันธมิตร (FI & Partnership) 3.1 พันล้านบาท เติบโต 28%และช่องทางตัวแทนและโบรกเกอร์ (Agency & Broker) 2.5 พันล้านบาท เติบโต 14% และลูกค้าองค์กร (Corporate) 1.1 พันล้านบาท โดยในธุรกิจทั้งหมดนี้ แบ่งเป็นสัดส่วนเบี้ยประกันภัยที่มาจากรถยนต์ และ ที่ไม่ใช่รถยนต์ อย่างละครึ่ง โดยเบี้ยประกันภัยรถยนต์ (Motor) 3.3 พันล้านบาท
และเบี้ยประกันภัยที่ไม่ใช่รถยนต์ (Non-Motor) 3.4 พันล้านบาท ในขณะที่ฐานะการเงินยังแข็งแกร่ง ด้วยสินทรัพย์กว่า 1.07 หมื่นล้านบาท มีเงินกองทุนสำรอง (Risk-based capital) ถึงกว่า 365% สูงกว่ามาตรฐานที่กฎหมายกำหนดถึง 225%