แบงก์ชาติชี้ “บาทผันผวนสูง”เตือนเอกชนรับมือ

08 มี.ค. 2566 | 09:43 น.
อัปเดตล่าสุด :08 มี.ค. 2566 | 09:53 น.

แบงก์ชาติเผยตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิสินทรัพย์ไทยราว 2 พันล้านดอลลาร์ –เงินดอลลาร์ปรับแข็งค่าขึ้น 1.2%สวนทางเงินบาทอ่อนค่าลง1.5% เหตุนักลงทุนคาดการณ์ว่า FED อาจกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น

นางสาวพิมพ์พันธ์  เจริญขวัญ ผู้อำนวยการอาวุโส  ฝ่ายตลาดการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)หรือแบงก์ชาติ เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา เงินบาทและสกุลเงินภูมิภาคเคลื่อนไหวผันผวนทั้ง 2 ทิศทางตามภาวะตลาดการเงินโลก จากปัจจัยความไม่แน่นอนที่เพิ่มขึ้นในการดำเนินนโยบายการเงินสหรัฐฯ และการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีนหลังการเปิดประเทศ

 

 ทั้งนี้ การแถลงของประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา(เฟด) ต่อคณะกรรมาธิการประจำวุฒิสภาในช่วงข้ามคืนเป็นการส่งสัญญาณว่า FED อาจขึ้นดอกเบี้ยได้เร็วและมากกว่าคาด หากตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังสะท้อนความแข็งแกร่งและเงินเฟ้อยังทรงตัวในระดับสูง

 

ทั้งนี้ ส่งผลให้นักลงทุนคาดการณ์ว่า FED อาจกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้น และทำให้เงินดอลลาร์สหรัฐฯ ปรับแข็งค่าขึ้น 1.2% ขณะที่เงินบาทปรับอ่อนค่าลง 1.5% ใกล้เคียงกับการเคลื่อนไหวของเงินสกุลภูมิภาคที่อ่อนค่าระหว่าง 0.3% - 1.7%

ด้านเงินทุนเคลื่อนย้ายโดยรวมตั้งแต่ต้นปี 2566 นักลงทุนต่างชาติมีฐานะขายสุทธิในสินทรัพย์ไทยประมาณ 2 พันล้านดอลลาร์ โดยเป็นการขายสุทธิในตลาดพันธบัตรที่ 1.2 พันล้านดอลลาร์ และตลาดหุ้น 0.8 พันล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 3 มี.ค. 2566)

ในระยะข้างหน้า ตลาดการเงินโลกและค่าเงินบาทยังคงมีแนวโน้มผันผวนสูงโดยเคลื่อนไหวได้ทั้ง 2 ทิศทาง จากการปรับเปลี่ยนการดำเนินนโยบายการเงินของสหรัฐฯ และความไม่แน่นอนในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจีน

 

ทั้งนี้ ภาคเอกชนจึงควรพิจารณาป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ เพื่อลดผลกระทบจากความผันผวนของตลาดการเงินที่ยังคงอยู่ในระดับสูง