นางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า การทำงานในช่วงที่ผ่านมาของทาง ก.ล.ต. ช่วงที่ตนดำรงตำแหน่ง เลขาฯ เป็นไปตามข้อของกฎหมาย โดยมุ่งเน้นใน 2 ด้าน ทั้งการพัฒนาตลาดทุน ควบคู่กับการบังคับใช้กฎหมาย
โดยในเรื่องการส่งเสริมและการพัฒนาตลาดทุน ที่ผ่านมาได้ปรับปรุงหลักเกณฑ์บางส่วนที่เป็นภาระ หรือข้อติดขัดของผู้ประกอบการ เพื่อให้การดำเนินธุรกิจเป็นไปอย่างคล่องตัว
ขณะที่การบังคับใช้กฎหมาย ทำตามกระบวนการในกรอบและกฎระเบียบทุกๆ ขั้นตอน เนื่องจากในขั้นตอนการทำงานไม่สามารถทำได้ด้วยคนๆ เดียว เพราะเป็นหน้าที่และทุกขั้นตอนมีการสอบทาน ตรวจสอบความถูกต้องในคณะกรรมการอยู่แล้ว
ที่ผ่านมาในช่วงที่ดำรงตำแหน่งเลขา ก.ล.ต. อาจเห็นการทำงานของทาง สำนักงาน ก.ล.ต. มีการดำเนินการกับผู้กระทำความผิด หรือมีคดี และมาตรการลงโทษทางแพ่งมากขึ้น
แต่เรื่องต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2562 ก่อนเข้ามารับตำแหน่ง ซึ่งในเรื่องใดมีความชัดเจนในหลักฐานที่ชี้ชัด ก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยทาง ก.ล.ต. ไม่ได้ปิดกั้นผู้ที่ถูกกล่าวหา ซึ่งมีการเปิดให้ชี้แจงตามขั้นตอนในทุกๆ คดี
"การเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ เรามีหน้าที่ต้องทำ ไม่ทำอาจถือว่าละเว้น ถ้าทำเกินหน้าที่ก็อาจเป็นการใช้อำนาจโดยมิชอบได้ เพราะฉนั้นการเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีกฎหมายกำกับดูแลอยู่ ต้องทำตามหลักของกฎหมาย" นางสาวรื่นวดี กล่าว
ส่วนในเรื่องการดำเนินการตาม พระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ได้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) ในการบังคับใช้กฎหมายที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่ จะเป็นกรณีการเสนอขายโทเคนดิจิทัล และการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
โดยในตอนนี้มีคณะทำงานขึ้นมาดูแล ซึ่งเป็นการร่วมมือของทุกๆหน่วยงานทั้ง กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย สมาคมสินทรัพย์ดิจิทัลไทย และผู้ประกอบการ
ซึ่งจะมุ่งเน้นการดูแล และคุ้มครองผู้ซื้อขาย โดยไม่สนับสนุนการเก็งกำไรใน คริปโทเคอร์เรนซี ทุกรูปแบบ ควบคู่ไปกับการให้ข้อมูลความรู้ ความเข้าใจ กับประชาชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้อง