เฟดลดดอกเบี้ย 0.5% ครั้งแรกในรอบ4ปี หวังกระตุ้นเศรษฐกิจ-ตลาดแรงงาน

19 ก.ย. 2567 | 00:12 น.
อัปเดตล่าสุด :19 ก.ย. 2567 | 00:31 น.

'เฟด' ใช้ยาแรงประกาศลดดอกเบี้ย 0.5% ครั้งแรกในรอบ 4 ปี พร้อมส่งสัญญาณลดอีก 0.5%ในปีนี้  ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจสหรัฐในปี 2567 ลงเหลือ 2%

19 กันยายน 2567 - ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 0.5% เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ช่วงเริ่มต้นของการระบาดโควิด-19 โดยหวังจะกระตุ้นเศรษฐกิจและป้องกันการชะลอตัวของตลาดแรงงาน

คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟด (FOMC) มีมติด้วยคะแนนเสียง 11 ต่อ 1 ให้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยกองทุนสหพันธ์ลงมาอยู่ที่ระดับ 4.75%-5% ซึ่งเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่วิกฤตการเงินโลกในปี 2551

นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐฯ กล่าวว่า "เรามีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อกำลังเคลื่อนไหวอย่างยั่งยืนไปสู่เป้าหมาย 2% และมองว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและเงินเฟ้อมีความสมดุลพอสมควร"

อย่างไรก็ตาม เฟดยังคงเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด โดยได้ปรับเพิ่มคาดการณ์อัตราการว่างงานสำหรับปีนี้เป็น 4.4% จาก 4% ที่คาดการณ์ไว้ในเดือนมิถุนายน ขณะที่ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อลงเหลือ 2.3% จาก 2.6%

เฟดระบุในแถลงการณ์ว่า "คณะกรรมการมีความมั่นใจมากขึ้นว่าอัตราเงินเฟ้อจะเคลื่อนตัวไปสู่ระดับ 2% อย่างยั่งยืน และเห็นว่าความเสี่ยงในการบรรลุเป้าหมายด้านการจ้างงานและอัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่สมดุล" และเสริมว่าเจ้าหน้าที่ "มีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะสนับสนุนการจ้างงานสูงสุด" นอกเหนือจากการผลักดันอัตราเงินเฟ้อให้กลับไปสู่เป้าหมาย

ทั้งนี้ เฟดลดดอกเบี้ยครั้งล่าสุด 0.50% เมื่อวันที่ 3 มี.ค. 2563 และอีก 1.00% ในวันที่ 15 มี.ค. 2563 โดยถือเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยฉุกเฉินในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยลดลงมาอยู่ที่ระดับ 0-0.25% ยาวต่อเนื่องจนเข้าสู่วัฎจักรการขึ้นดอกเบี้ยในปี 2565-2566

นอกจากการปรับลดดอกเบี้ยแล้ว เฟดยังได้ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปี 2567 ลงเหลือ 2% โดยประมาณการว่าจีดีพีสหรัฐจะโตได้ระดับ 2.0% ในทุกๆ ปี ตั้งแต่ปี 2567- 2570 หลังจากก่อนหน้านี้เคยคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่า จะมีการขยายตัว 2.1%, 2.0% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ

นอกจากนี้ เฟดยังได้ปรับคาดการณ์การว่างงานในปีนี้ "เพิ่มขึ้น" จาก 4.0% เป็น 4.4%

เฟดปรับตัวเลขคาดการณ์อัตราว่างงานในช่วง 4 ปีนี้ ตั้งแต่ปี 2567 - 2570 อยู่ที่ระดับ 4.4%, 4.4% และ 4.3% และ 4.2% ตามลำดับ หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 4.0%, 4.2% และ 4.1% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ ส่วนอัตราว่างงานระยะยาวยังคงอยู่ที่ระดับ 4.2%

ขณะเดียวกัน เฟดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อในปี 2567- 2570 อยู่ที่ระดับ 2.6%, 2.2%, 2.0% และ 2.0% ตามลำดับ "ลดลง" หลังจากคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะอยู่ที่ระดับ 2.8%, 2.3% และ 2.0% ในปี 2567, 2568 และ 2569 ตามลำดับ

นักวิเคราะห์มองว่าการตัดสินใจครั้งนี้สะท้อนถึงความกังวลของเฟดต่อการชะลอตัวของตลาดแรงงาน แม้ว่าเศรษฐกิจโดยรวมจะยังคงแข็งแกร่ง โดยคาดว่า GDP ในไตรมาส 3 จะเติบโตราว 3%

การลดดอกเบี้ยครั้งนี้ส่งผลให้ต้นทุนการกู้ยืมสำหรับสินเชื่อบ้าน รถยนต์ และบัตรเครดิตมีแนวโน้มลดลง ซึ่งอาจช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายของผู้บริโภคและการลงทุนของภาคธุรกิจ