นายประภาส ตันพิบูลย์ศักดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทาลิส จำกัด (บลจ.ทาลิส)เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยได้ปรับตัวลดลงค่อนข้างแรงในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ตามปัจจัยลบต่างๆ เช่น การปรับตัวขึ้นของราคาน้ำมัน ความยืดเยื้อของสงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อการปรับตัวขึ้นของอัตราเงินเฟ้อทั้งในและต่างประเทศ
หลายประเทศในยุโรปและสหรัฐอเมริกาเลือกที่จะรีบควบคุมอัตราเงินเฟ้อโดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายอย่างต่อเนื่อง เพื่อที่จะชะลอการเติบโตของเศรษฐกิจและเป็นการสกัดเงินเฟ้อ ทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลก มีการปรับฐานลดลง ตลาดหุ้นไทยเองได้มีการปรับตัวลดลงตามตลาดหุ้นโลกในช่วงที่ผ่านมาจากความกังวลว่าธนาคารแห่งประเทศไทยจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วเช่นกัน
สำหรับสภาวะเศรษฐกิจไทยนั้นจะแตกต่างจากประเทศในภูมิภาคยุโรปและในสหรัฐอเมริกา ตรงที่ประเทศไทยเพิ่งเริ่มการผ่อนคลายนโยบายการเดินทางระหว่างประเทศในช่วงปลายไตรมาส 2 จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นมากกว่าที่คาด ประกอบกับการเพิ่มขึ้นของกิจกรรมการท่องเที่ยวภายในประเทศเอง
ทำให้เห็นตัวเลขการอุปโภคและบริโภคภาคเอกชน เริ่มที่จะเร่งตัวขึ้นไตรมาสที่2 เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่องโดยมีแรงส่งชัดเจนจากภาคการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชน ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.)มองว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2565 จะมีแนวโน้มอยู่ในระดับสูงระยะหนึ่ง ก่อนที่จะทยอยปรับลดลงตามการลดลงของแรงกดดันเงินเฟ้อด้านอุปทานที่จะทยอยคลี่คลายในปี 2566
ขณะที่ระบบการเงินของไทยโดยรวมมีเสถียรภาพ ธนาคารพาณิชย์มีระดับเงินกองทุนและเงินสำรองที่เข้มแข็ง รวมทั้งสภาพคล่องในระบบการเงินอยู่ในระดับสูง จึงเห็นว่าในช่วงที่ผ่านมาตั้งแต่ต้นปี 2565 มีเงินไหลเข้าสุทธิจากต่างชาติเข้ามาซื้อหุ้นไทยมากกว่าแสนล้านบาท
“มองว่าตลาดหุ้นไทยได้มีการปรับฐานลดลงมาพอสมควรใกล้จุดต่ำสุดแล้ว และในช่วงปลายไตรมาส 3 มีโอกาสปรับตัวขึ้นได้จากปัจจัยบวกแนวโน้มการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยทางธนาคารแห่งประเทศไทย คาดว่าเศรษฐกิจไทยจะกลับเข้าสู่ระดับก่อนการระบาดของ COVID-19 ได้ภายในสิ้นปีนี้และจะขยายตัวต่อเนื่องในระยะต่อไป”นายประภาสกล่าว
สำหรับบลจ.ทาลิสมีแผนการเสนอขายกองทุนหุ้นไทยกองใหม่ที่เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดเล็กที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ โดยมองว่าในปัจจุบันมีหุ้นเล็กหลายตัวที่นักลงทุนทั่วไปยังมองข้าม เนื่องจากไม่ได้มีนักวิเคราะห์ติดตามหุ้นประเภทนี้
นอกจากนี้ในสภาวะที่ตลาดหุ้นมีความไม่แน่นอนจากหลายปัจจัยอาทิ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ เศรษฐกิจโลกอยู่ในช่วงชะลอตัว การค้นหาและคัดเลือกหุ้นไทยขนาดเล็กที่ แข็งแกร่งและมีอัตราการเติบโตที่ดี ยังเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่สามารถสร้างโอกาสทำผลตอบแทนที่โดดเด่นในระยะยาวให้แก่นักลงทุน
บลจ.ทาลิสจึงนำเสนอขายกองทุนในช่วงต้นเดือนกันยายนนี้ ระหว่างวันที่ 1 -8 กันยายน 2565 เปิดเสนอขาย 2 ชนิดหน่วยลงทุน คือ ชนิดสะสมมูลค่า (TSMALLEQ-A) และ ชนิดเพื่อการออม (TLSMALLEQ-SSF) จำนวนเงินขั้นต่ำในการซื้อ 1,000 บาท
นอกจากนี้บริษัทเตรียมจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 3 สำหรับกองทุนเปิดทาลิส Dividend Stock หุ้นระยะยาวปันผล (TLDIVLTF-D) ในอัตรา 0.12 บาทต่อหน่วย รอบระยะเวลาบัญชี วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ถึง 31 กรกฎาคม 2565 โดยกำหนดการปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 18 ส.ค. 2565 เวลา 8.00 น. และกำหนดจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ 25 ส.ค. 2565