หลังจากที่ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย 0.50% ไปล่วงหน้าแล้ว ล่าสุด ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และ ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็ได้มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% เช่นกันในการประชุมวานนี้ (15 ธ.ค.) เป็นไปตามคาดการณ์ของตลาด และส่งสัญญาณถึง ทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้น ทั่วโลก
การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ ECB
โดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของ ECB ซึ่งเป็นอัตราดอกเบี้ยรีไฟแนนซ์ มีผลบังคับใช้ใน 19 ประเทศที่ใช้สกุลเงินยูโร จะขยับขึ้น 0.50% ไปอยู่ที่ระดับ 2.50% และเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.2551 ขณะที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากและอัตราดอกเบี้ยเงินกู้อยู่ที่ระดับ 2.0% และ 2.75% ตามลำดับ
นอกจากนี้ ECB ยังส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ โดยในแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการ ECB ตัดสินใจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยใน และคาดว่าจะปรับขึ้นต่อไปอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากเงินเฟ้อยังคงอยู่ที่ระดับสูงเกินไป และคาดว่าจะอยู่เหนือระดับเป้าหมายนานเกินไปด้วย
ทั้งนี้ ECB ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 4 ติดต่อกัน หลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในเดือนก.ค. และ 0.75% ทั้งในเดือนก.ย.และต.ค. โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค.ถือเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 11 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2543
ขณะเดียวกันแถลงการณ์ของ ECB ระบุว่า จะเริ่มทำการปรับลดงบดุลในวงเงิน 15,000 ล้านยูโร/เดือนนับตั้งแต่เดือนมี.ค.2566 จนสิ้นสุดไตรมาส 2 ของปีดังกล่าว
การปรับขึ้นดอกเบี้ยของ BoE
ภายในวันเดียวกัน ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ก็ได้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% สู่ระดับ 3.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้ และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 9 ติดต่อกัน
ทั้งนี้ คณะกรรมการนโยบายการเงิน (MPC) ของ BoE มีความเห็นไม่เป็นเอกฉันท์ในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งนี้ โดยกรรมการ 6 รายลงมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ขณะที่ 1 รายให้ปรับขึ้น 0.75% ส่วนอีก 2 รายมีมติให้คงอัตราดอกเบี้ย
แถลงการณ์ของ BoE ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไปเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 41 ปีในเดือนต.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางตลาดแรงงานที่ยังคงตึงตัว ขณะที่มีหลักฐานบ่งชี้แรงกดดันจากเงินเฟ้อในราคาสินค้าและค่าจ้างแรงงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้ต้องมีการใช้นโยบายการเงิน “อย่างจริงจัง” เพื่อรับมือภาวะดังกล่าว
ก่อนหน้านี้ BoE ประกาศปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% สู่ระดับ 3.0% ในการประชุมวันที่ 3 พ.ย. ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 33 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2532 เป็นต้นมา อีกทั้งยังเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยติดต่อกันเป็นครั้งที่ 8 นับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564
นักวิเคราะห์คาดว่า BoE จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 0.50% ในไตรมาสแรกของปี 2566 และอีก 0.25% ในไตรมาส 2 ของปีเดียวกันนั้น ซึ่งจะทำให้อัตราดอกเบี้ยนโยบายของ BoE แตะระดับสูงสุดที่ 4.25%