นายวุฒิพงศ์ จิตตั้งสกุล ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า ภาวะเศรษฐกิจการคลังประจำเดือนพฤศจิกายน2565 ได้รับปัจจัยสนับสนุนจากการขยายตัวของภาคการท่องเที่ยวทั้งจากนักท่องเที่ยวต่างประเทศและผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ขณะที่การบริโภค และการลงทุนภาคเอกชนมีสัญญาณทรงตัวจากเดือนก่อน ขณะที่การส่งออกสินค้าชะลอลงตามทิศทางการชะลอตัวของเศรษฐกิจประเทศคู่ค้า
ทั้งนี้ มูลค่าการส่งออกสินค้าลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยมูลค่าการส่งออกสินค้ารวมในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ 22,308.0 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ -6.0
และหากพิจารณาเฉพาะมูลค่าการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่อง ทองคำ และยุทธปัจจัย พบว่า ลดลงเล็กน้อยที่ร้อยละ -2.0 เนื่องจากอุปสงค์ของประเทศคู่ค้าชะลอลง ส่งผลให้สินค้าส่งออกของไทยลดลง
ด้านเครื่องชี้เศรษฐกิจด้านการบริโภคภาคเอกชน ทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า โดยการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนสะท้อนจากปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ ในเดือนพฤศจิกายน 2565 เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 4.9 และเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลร้อยละ 5.6 สอดคล้องกับรายได้เกษตรกรที่แท้จริง ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ขยายตัวที่ร้อยละ 9.9
และดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภค ในเดือนพฤศจิกายน 2565 ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 47.9 จากระดับ 46.1 ในเดือนก่อนหน้า ซึ่งเป็นการปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดยเป็นผลมาจากผู้บริโภคมีความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับทิศทางราคาสินค้าและค่าครองชีพมีแนวโน้มลดลง
ขณะที่ภาคบริการด้านการท่องเที่ยว ในเดือนพฤศจิกายน 2565 มีนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้าประเทศไทยรวม จำนวน 1.75 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 1,815.9 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -30.1
"ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากมาเลเซีย อินเดีย รัสเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ตามลำดับ เช่นเดียวกับการท่องเที่ยวภายในประเทศที่มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย ในเดือนพฤศจิกายน 2565 จำนวน 19.1 ล้านคน คิดเป็นอัตราการขยายตัวจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ร้อยละ 69.0 แต่ลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้าหลังขจัดผลทางฤดูกาลที่ร้อยละ -26.4"
ทั้งนี้ เสถียรภาพเศรษฐกิจยังอยู่ในเกณฑ์ดี โดยปัจจัยกดดันจากระดับราคาสินค้าเริ่มปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในเดือพฤศจิกายน 2565 อยู่ที่ร้อยละ 5.55 ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 3.22 ส่วนสัดส่วนหนี้สาธารณะ ณ สิ้นเดือนตุลาคม 2565 อยู่ที่ร้อยละ 60.60 ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลัง