การประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในกลางสัปดาห์นี้ (25 ม.ค.66) ถือเป็นการประชุมนัดแรกของของ กนง. ในปี 2566 โดยเป็นประเด็นที่หลายคนติดตามและจับตาว่าทิศทางจะออกมาเป็นอย่างไรในการประชุมครั้งนี้
นายพรายพล คุ้มทรัพย์ อดีตคณะกรรมการนโยบายการเงิน เปิดเผย ฐานเศรษฐกิจ ว่า การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ คาดว่าที่ประชุมคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยแบบค่อยเป็นค่อยไป และในครั้งนี้จะปรับขึ้น 0.25% โดยภาพรวมเศรษฐกิจของประเทศไทยยังไม่ค่อยสดใส แม้ภาคการท่องเที่ยวจะปรับตัวดีขึ้นหลังจีนเปิดประเทศ และมีนักท่องเที่ยวเดินทางมายังประเทศไทยเพิ่มขึ้น เนื่องจากปัญหาอัตราเงินเฟ้อยังคงมีอยู่แม้จะไม่รุนแรงเหมือนในช่วงที่ผ่านมาแต่ยังถือว่าอยู่ในระดับสูง
ทั้งนี้ที่ผ่านมาการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยปรับขึ้นมาอยู่ที่ 1.25% แต่ถือว่ายังอยู่ในระดับต่ำหากเทียบกับสภาวะเศรษฐกิจ และภาวะดอกเบี้ยในต่างประเทศ ซึ่งการประชุมในครั้งนี้หากมีการปรับขึ้น 0.25% จะทำให้อัตราดอกเบี้ยของไทยขยับขึ้นมาที่ระดับ 1.50% ที่เป็นระดับที่ได้รับได้ ซึ่งการทยอยปรับไม่เร่งจนเกินไปเชื่อว่าภาคธุรกิจจะปรับตัวได้
“การขึ้นดอกเบี้ยคงค่อยเป็นค่อยไปรอบนี้คงปรับขึ้น 0.25% จะขึ้นแบบทีละเล็กทีละน้อย สถานการณ์ตอนนี้ยังอึมครึมแม้ท่องเที่ยวจะดีขึ้นแต่ปัญหาเงินเฟ้อยังมีอยู่” นายพรายพล กล่าว
ด้านปัจจัยที่น่ากังวลต่อเศรษฐกิจไทยปีนี้นั้น ยังมีปัญหาจากราคาพลังงานที่ปรับตัวสูงขึ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาค่าไฟฟ้าที่ปรับตัวขึ้นแบบก้าวกระโดด จนอาจกระทบต่อต้นทุนของภาคเอกชนได้
ส่วนภาคการส่งออกยังคงน่าเป็นห่วงเช่นกัน และต้องจับตาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากกำลังซื้อในตลาดโลกจากประเทศคู่ค้าที่เริ่มปรับลดลง ซึ่งอาจกระทบต่อยอดคำสั่งซื้อสินค้า ในขณะที่อัตราแลกเปลี่ยนไม่น่าเป็นกังวลในระยะข้างหน้า ซึ่งระดับปัจจุบันถือว่าไม่แข็งค่า และอ่อนค่ามากจนเกินไป