"พาวเวลล์" ส่งสัญญาณขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาด มุ่งลดเงินเฟ้อสู่เป้า 2%

07 มี.ค. 2566 | 22:50 น.
อัปเดตล่าสุด :07 มี.ค. 2566 | 23:29 น.

ประธานเฟด ส่งสัญญาณอาจขึ้นดอกเบี้ยแรงกว่าคาดในการประชุม 21-22 มี.ค.นี้ มุ่งลดเงินเฟ้อสู่ระดับเป้าหมาย 2% หลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐยังคงมีความแข็งแกร่ง

 

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา (เฟด) กล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาวานนี้ (7 มี.ค. ตามเวลาสหรัฐ) ว่า เฟด อาจ ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย สู่ระดับสูงกว่าที่เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ เนื่องจาก ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐ ยังคงมีความแข็งแกร่ง

"ข้อมูลทางเศรษฐกิจล่าสุดแข็งแกร่งกว่าที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งบ่งชี้ว่าอัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายของเฟดจะอยู่สูงกว่าที่มีการคาดการณ์ และหากข้อมูลทั้งหมดบ่งชี้ว่าเฟดควรคุมเข้มนโยบายการเงินให้เร็วขึ้น เราก็จะเพิ่มความเร็วในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย"

นายพาวเวลล์กล่าวว่า ถึงแม้เงินเฟ้อได้ชะลอตัวลงหลังจากแตะจุดสูงสุดในปีที่แล้ว (2565) แต่กระบวนการทำให้เงินเฟ้อลดลงสู่เป้าหมาย 2% ยังคงเป็นหนทางอีกยาวไกล และไม่ราบรื่น ดังนั้น ภารกิจในการต่อสู้กับเงินเฟ้อของเฟดจึงยังคงไม่สิ้นสุด และเฟดจำเป็นที่จะต้องคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไปอีกระยะหนึ่ง

ถ้อยแถลงของประธานเฟดครั้งนี้บ่งชี้ว่า การที่เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพียง 0.25% ในเดือนกุมภาพันธ์ อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วคราว

ทั้งนี้ นายพาวเวลล์มีกำหนดการกล่าวแถลงการณ์รอบครึ่งปีว่าด้วยนโยบายการเงินและภาวะเศรษฐกิจสหรัฐต่อสภาคองเกรสในสัปดาห์นี้ โดยเขาต้องกล่าวถ้อยแถลงต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจำวุฒิสภาในวันอังคาร (7 มี.ค.) ก่อนที่จะกล่าวต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรในวันพุธนี้ (8 มี.ค.)

นักลงทุนต่างจับตาถ้อยแถลงของนายพาวเวลล์เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ภาวะเศรษฐกิจสหรัฐและทิศทางการปรับอัตราดอกเบี้ยของเฟด ก่อนที่เฟดจะจัดการประชุมนโยบายการเงินในวันที่ 21-22 มีนาคม

ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนธ.ค.2565 เจ้าหน้าที่เฟดคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยขั้นสุดท้ายที่ระดับ 5.1% แต่นักลงทุนคาดการณ์ที่ระดับ 5.25-5.50%

อย่างไรก็ดี นายพาวเวลล์ไม่ได้ระบุว่า อัตราดอกเบี้ยจะแตะระดับสูงสุดที่ระดับใด และย้ำว่าการตัดสินใจเกี่ยวกับอัตราดอกเบี้ยของเฟดจะขึ้นอยู่กับการประชุมในแต่ละครั้ง รวมทั้งขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เฟดได้รับ โดยเฟดจะพิจารณาถึงผลกระทบจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่จะมีต่อเงินเฟ้อและกิจกรรมทางเศรษฐกิจ และเฟดจะไม่มีการกำหนดล่วงหน้าสำหรับทิศทางนโยบายการเงิน

สำหรับ กำหนดการประชุมของคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประจำปี 2566 มีดังนี้

  • วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. 
  • วันที่ 21-22 มี.ค.
  • วันที่ 2-3 พ.ค.
  • วันที่ 13-14 มิ.ย.
  • วันที่ 25-26 ก.ค.
  • วันที่ 19-20 ก.ย.
  • วันที่ 31 ต.ค.-1 พ.ย.
  • วันที่ 12-13 ธ.ค.

ทั้งนี้ การประชุม FOMC ครั้งแรกของปี 2566 (31 ม.ค. ถึง 1 ก.พ.) เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น อีก 0.25% จึงทำให้ดอกเบี้ยดังกล่าวขึ้นมาสู่ระดับ 4.50-4.75%