สหรัฐสั่งปิดกิจการ Silicon Valley Bank พร้อมเข้าดูแลเงินฝาก

10 มี.ค. 2566 | 23:55 น.
อัปเดตล่าสุด :11 มี.ค. 2566 | 05:06 น.

สหรัฐสั่งปิดกิจการ Silicon Valley Bank ( SVB) ธนาคารปล่อยกู้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี พร้อมมอบหมาย FDIC เข้าดูแลเงินฝาก โดยให้การคุ้มครองเงินฝากสูงสุดไม่เกิน 2.5 แสนดอลลาร์ต่อผู้ฝาก 1 ราย ต่อ 1 ธนาคาร

 

กระทรวงปกป้องการเงินและนวัตกรรมแห่งรัฐแคลิฟอร์เนียประกาศปิดกิจการของ Silicon Valley Bank (SVB) ในวันนี้ พร้อมกับมอบหมายให้บรรษัทค้ำประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) เป็นผู้ดูแลเงินฝากของ SVB
          
ทั้งนี้  FDIC ได้จัดตั้ง Deposit Insurance National Bank of Santa Clara (DINB) และได้โอนเงินฝากทั้งหมดจาก SVB ที่ได้รับการค้ำประกันเข้าสู่ DINB เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของผู้ฝากเงิน
  
FDIC เปิดเผยว่า เจ้าของเงินฝากจะสามารถเข้าถึงเงินฝากของตนเองได้ภายในช่วงเช้าของวันจันทร์ที่ 13 มี.ค. ซึ่งสาขาต่างๆ ของ SVB จะเปิดทำการ แต่อยู่ภายใต้การควบคุมของ FDIC

อย่างไรก็ดี กฎระเบียบของ FDIC ให้การคุ้มครองเงินฝากไม่เกิน 250,000 ดอลลาร์ต่อผู้ฝาก 1 ราย ต่อ 1 ธนาคาร
 

ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธ.ค.2565 ระบุว่า SVB มีสินทรัพย์ทั้งหมดราว 2.09 แสนล้านดอลลาร์ และมีเงินฝาก 1.754 แสนล้านดอลลาร์

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าว CNBC รายงานโดยอ้างอิงแหล่งข่าวระบุว่า SVB Financial Group ซึ่งเป็นบริษัทแม่ของ Silicon Valley Bank (SVB) ธนาคารปล่อยกู้แก่ธุรกิจสตาร์ทอัพในกลุ่มเทคโนโลยี กำลังอยู่ในระหว่างการเจรจาเพื่อขายกิจการ หลังจากประสบความล้มเหลวในการขายหุ้นเพื่อเพิ่มทุนธนาคาร

ราคาหุ้น SVB ร่วงลง 45.61% สู่ระดับ 57.68 ดอลลาร์ก่อนเปิดตลาดวันนี้ หลังจากปิดตลาดวานนี้ทรุดตัวลง 60.41% สู่ระดับ 106.04 ดอลลาร์

ทั้งนี้ SVB ประกาศแผนขายหุ้นแก่นักลงทุนวงเงิน 2.25 พันล้านดอลลาร์ในการระดมทุนเพื่อเสริมสภาพคล่อง หลังจากประสบภาวะขาดทุนถึง 1.8 พันล้านดอลลาร์จากการขายพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐที่ถือครองอยู่ ซึ่งมีมูลค่าในพอร์ทลดลงอย่างมาก จากการที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ประกาศเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ
         

นอกจากนี้ SVB ยังประสบปัญหากระแสเงินสดหมุนเวียนจากการที่ธุรกิจสตาร์ทอัพพากันถอนเงินฝากจากธนาคาร

 SVB มีมูลค่าตลาดสูงถึง 1.68 หมื่นล้านดอลลาร์เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว แต่ ณ ปิดตลาดวานนี้ SVB มีมูลค่าตลาดเหลืออยู่เพียง 6.3 พันล้านดอลลาร์เท่านั้น และมีการคาดการณ์กันว่ามูลค่าตลาดดังกล่าวจะลดลงอีก หลังจากปิดตลาดวันนี้