ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,909.64 จุด ลดลง 345.22 จุด หรือ -1.07% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,861.59 จุด ลดลง 56.73 จุด หรือ -1.45% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,138.89 จุด ลดลง 199.47 จุด หรือ -1.76%
ดัชนีดาวโจนส์ปิดลดลงเป็นวันที่ 4 ติดต่อกันแล้วและยาวนานที่สุดนับตั้งแต่เดือนธ.ค. 2565
ในรอบสัปดาห์นี้ ดัชนีดาวโจนส์ร่วงลง 4.4%, ดัชนี S&P500 ร่วง 4.5% และดัชนี Nasdaq ดิ่งลง 4.7%
บรรษัทรับประกันเงินฝากของรัฐบาลกลางสหรัฐ (FDIC) ได้สั่งปิด SVB เพื่อปกป้องผู้ฝากเงิน ขณะที่วิกฤตของ SVB ได้สร้างแรงกดดันให้กับหุ้นธนาคารทั่วโลก
SVB ไม่สามารถเพิ่มงบดุลบัญชีผ่านการเสนอขายหุ้นเมื่อวันพุธ (8 มี.ค.) ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ซิลเวอร์เกต แคปิตอลเปิดเผยว่าจะต้องยุติการดำเนินงานของซิลเวอร์เกตแบงก์ซึ่งเป็นธนาคารในเครือ หลังจากขาดทุนอย่างหนักจากการล้มละลายของบริษัทเอฟทีเอ็กซ์ซึ่งเป็นบริษัทซื้อขายคริปโทเคอร์เรนซี
ดัชนี KBW หุ้นกลุ่มธนาคารและหุ้นกลุ่มการเงินของดัชนี S&P500 เผชิญแรงกดดันตลอดทั้งวัน
ตลาดปรับตัวลงหลังได้แรงหนุนในช่วงแรกจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานของสหรัฐที่ชะลอตัวลง โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรเพิ่มขึ้น 311,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 225,000 ตำแหน่ง แต่ชะลอตัวจากระดับ 504,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค.
ส่วนอัตราการว่างงานเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.6% สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.4%
นอกจากนี้ ตัวเลขค่าจ้างรายชั่วโมงโดยเฉลี่ยของแรงงาน เพิ่มขึ้น 0.2% เมื่อเทียบรายเดือน ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 0.4% และเพิ่มขึ้น 4.6% เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.8%
ข้อมูลการจ้างงานที่ชะลอตัวลงดังกล่าวได้ช่วยคลายความวิตกที่ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.50% ในการประชุมเดือนนี้