ตลาดลุ้นระทึกคืนนี้ เฟด “ขึ้น” หรือ “คง” ดอกเบี้ย ท่ามกลางความป่วนภาคธนาคาร

22 มี.ค. 2566 | 12:55 น.
อัปเดตล่าสุด :22 มี.ค. 2566 | 13:23 น.

นักลงทุนให้น้ำหนัก 90.8% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมคืนนี้ และให้น้ำหนักเพียง 9.2% ที่เฟดจะ “คง” อัตราดอกเบี้ย

นักลงทุนจับตา ผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันนี้ (22 มี.ค.) โดยเฟดจะประกาศผลการประชุมในคืนนี้เวลา 01.00 น.ตามเวลาไทย

ตลาดการเงินจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของเฟดว่า จะ ขึ้น หรือ คงอัตราดอกเบี้ย ในการประชุมรอบนี้ ซึ่งเป็นครั้งที่สองของปี 2566 รวมทั้งตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อ การว่างงาน และการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐ ที่กำลังจะทยอยออกมาในคืนนี้ ขณะเดียวกัน นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด จะแถลงผลการประชุมต่อสื่อมวลชน ซึ่งคาดว่าเขาจะถูกซักถามเกี่ยวกับสถานการณ์วิกฤตธนาคารในขณะนี้ รวมทั้งทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดด้วย ซึ่งมีแนวโน้มว่า เขาจะยืนยันความเชื่อมั่นในเสถียรภาพของระบบธนาคารสหรัฐ

ในการคาดการณ์ Dot Plot ครั้งล่าสุดในการประชุมเดือนธ.ค.2565 เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปี 2566 และจะไม่มีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจนกว่าจะถึงปี 2567 โดยเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสูงสุดสู่ระดับ 5.1% ในปี 2566 หรือเทียบเท่ากับช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ย 5.00-5.25% ก่อนที่จะสิ้นสุดวัฏจักรการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยระดับดังกล่าวถือเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือน ธ.ค.2550

นายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด

นอกจากนี้ เฟดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 1.0% ในปีหน้า (2567) ส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยปรับตัวลงสู่ระดับ 4.1% ในช่วงสิ้นปีดังกล่าว และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 1.0% ในปี 2568 สู่ระดับ 3.1% ก่อนที่อัตราดอกเบี้ยระยะยาวจะปรับตัวสู่ระดับ 2.5%

ผลการสำรวจล่าสุด นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่เชื่อว่า เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมคืนนี้ ซึ่งจะเป็นการแสดงความเชื่อมั่นของเฟดว่าสามารถรับมือวิกฤตการณ์ในระบบธนาคารขณะนี้ และเฟดจะยังคงให้ความสำคัญต่อการสกัดเงินเฟ้อ แม้มีสัญญาณการชะลอตัว แต่เงินเฟ้อสหรัฐก็ยังคงสูงกว่าเป้าหมายของเฟดที่ระดับ 2%

นักวิเคราะห์จากเจฟเฟอร์รี ไฟแนนเชียล กรุ๊ป ให้ความเห็นว่า พวกเขาคาดว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมรอบนี้ “เราไม่คิดว่าภาวะไร้เสถียรภาพในระบบการเงินจะเป็นเหตุผลเพียงพอที่จะทำให้เฟดคงอัตราดอกเบี้ย เมื่อพิจารณาถึงความเสี่ยงที่ว่าเฟดจะสูญเสียความเชื่อมั่นในการต่อสู้กับเงินเฟ้อ ซึ่งเฟดต้องการที่จะรักษา (ความเชื่อมั่นนั้น)เอาไว้"

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 90.8% ที่เฟดจะขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 4.75-5.00% ในการประชุมวันนี้ และให้น้ำหนักเพียง 9.2% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ย

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดการณ์ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งเร็วกว่าคาดการณ์ก่อนหน้านี้ ที่ว่าเฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปี 2567

สำหรับ ไทม์ไลน์ในการขึ้นดอกเบี้ยของเฟดตลอดทั้งปี 2565 มาจนถึงครั้งล่าสุด เป็นดังนี้

ปี 2565

วันที่ 25-26 ม.ค.     คงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.00-0.25%

วันที่ 15-16 มี.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 0.25-0.50%

วันที่ 3-4 พ.ค.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 0.75-1.00%

วันที่ 14-15 มิ.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 1.50-1.75%

วันที่ 26-27 ก.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 2.25-2.50%

วันที่ 20-21 ก.ย.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.00-3.25%

วันที่ 1-2 พ.ย.        ขึ้นดอกเบี้ย 0.75% สู่ 3.75-4.00%

วันที่ 13-14 ธ.ค.     ขึ้นดอกเบี้ย 0.50% สู่ 4.25-4.50%

ปี 2566

วันที่ 31 ม.ค.-1 ก.พ. ขึ้นดอกเบี้ย 0.25% สู่ 4.50-4.75%