นายลวรณ แสงสนิท อธิบดีกรมสรรพากร เปิดเผยว่า ขณะนี้กรมได้ส่งหนังสือเตือนไปยังผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ในการยื่นแบบรายได้ชำระภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาจำนวนประมาณ 3.5 หมื่นคน เพื่อให้เข้ามายื่นแบบแสดงรายการภาษีต่อกรม หากไม่มายื่นแบบภายในเวลาที่กำหนด จะถูกประเมินภาระภาษีที่มีค่าเบี้ยปรับและเงินเพิ่มด้วย
สำหรับจำนวนรายที่กรมได้ส่งหนังสือเตือนไปดังกล่าว เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วที่มียอดการส่งหนังสือเตือนไปจำนวนประมาณ 1 หมื่นรายเท่านั้น สะท้อนว่า ระบบการตรวจสอบและฐานข้อมูลของกรมฯที่ใช้ระบบเอไอเข้ามาร่วมตรวจสอบมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังสะท้อนว่า เป็นกลุ่มบุคคลที่มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกด้วย
“บุคคลที่เราส่งหนังสือเตือนให้มายื่นแบบชำระภาษีนั้น เป็นบุคคลที่ระบบเอไอได้ทำการตรวจพบว่า เป็นผู้ที่มีรายได้ถึงเกณฑ์ แต่ยังไม่มายื่นแบบชำระภาษี ดังนั้น เราจึงส่งหนังสือเตือนไป ใครที่ได้รับจดหมายเตือนจากกรมไม่ต้องกลัวหรือกังวลเกี่ยวกับภาระภาษีย้อนหลัง เพราะกรมจะพิจารณาเฉพาะปีภาษีนี้เท่านั้น”นายลวรณกล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูล ณ วันที่ 5 เม.ย.มีผู้เข้ามายื่นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาปีภาษี 2565 แล้ว จำนวน 10.1 ล้านคน เพิ่มขึ้น 43.70% เมื่อเทียบกับช่วงเวลเดียวกันของปีภาษี 2564 ขณะเดียวกัน มีจำนวนผู้ที่ขอคืนภาษี 3.65 ล้านคน เพิ่มขึ้น 14.29% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
โดยกรมได้ทำการคืนภาษีแล้วราว 77% ของจำนวนที่ยื่นขอคืนทั้งหมด หรือจำนวน 2.8 ล้านคน เพิ่มขึ้น 12.15% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา ส่วนภาษีที่ขอคืน คิดเป็นเงิน 2.6 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.90% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา