ธนารักษ์เก็บค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์ หนุนรายได้ 7 เดือนพุ่ง 7.5 พันล้าน

28 พ.ค. 2566 | 09:17 น.
อัปเดตล่าสุด :28 พ.ค. 2566 | 09:26 น.

กรมธนารักษ์ เก็บรายได้ 7 เดือน พุ่ง 7.5 พันล้านบาท ชี้เป็นผลมาจากการเก็บค่าเช่าที่เชิงพาณิชย์-ค่าสัมปทานท่อส่งน้ำอีอีซี ระบุยังส่งมอบท่อส่งน้ำให้ “วงษ์สยาม” ไม่สมบูรณ์ เชื่อ “อีสท์วอเตอร์” เร่งดำเนินการ

นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์​ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-เม.ย.66) กรมธนารักษ์ จัดเก็บรายได้ได้กว่า 7,500 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการให้เช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ทั้งจากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน)​ และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถือว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2566 นี้ จะสามารถเก็บรายได้รวมกว่า 8,900 ล้านบาท ตามเป้าหมายเอกสารงบประมาณ

 

“รายได้ช่วง 7 เดือน ที่เก็บได้ 7,500 ล้านบาทนั้น นอกจากการเก็บค่าเช่าที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ต้องจ่ายค่าแรกเข้าในวันทำสัญญาสัมปทานท่อส่งน้ำภาคตะวันออก (อีอีซี) วงเงินรวม 1,450 ล้านบาท ขณะนี้จ่ายเกือบครบแล้ว เหลืออีกเพียง 170 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะจ่ายทันทีเมื่อการส่งมอบทรัพย์สินครบสมบูรณ์”

 

ส่วนความคืบหน้าเรื่องการส่งมอบท่อส่งน้ำภาคตะวันออกนั้น ขณะนี้กรมธนารักษ์​ยังไม่สามารถส่งมอบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก 2 เส้น คือ หนองปลาไหล-หนองค้อ และหนองค้อ-แหลมฉบับระยะที่ 2 ให้กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้ชนะประมูล ได้อย่างสมบูรณ์  เนื่องจากติดเงื่อนไขการตรวจสอบทรัพย์สิน จากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ทำให้ต้องเจรจาในรายละเอียดกันอีกรอบ 

ทั้งนี้ หากการส่งมอบล่าช้า เกิดความเสียหาย ทางอีสท์วอเตอร์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายจากความล่าช้าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอีสท์วอเตอร์กำลังเร่งดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินอย่างแน่นอน

ขณะที่ท่อส่งน้ำเส้น ดอกกราย-มาบตพุด ขณะนี้ยังเหลือระยะเวลาอีก 6 เดือนจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานกับอีสท์วอเตอร์โดยสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.2566 นี้  กรมธนารักษ์ จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสำรวจและตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อให้การส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับวงษ์สยามตามสัญญาที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 เป็นต้นไป