นายจำเริญ โพธิยอด อธิบดีกรมธนารักษ์ เปิดเผยว่า ในช่วง 7 เดือนของปีงบประมาณ 2566 (ต.ค.65-เม.ย.66) กรมธนารักษ์ จัดเก็บรายได้ได้กว่า 7,500 ล้านบาท โดยเป็นรายได้จากการให้เช่าที่ราชพัสดุเชิงพาณิชย์ ทั้งจากบริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ถือว่าการจัดเก็บรายได้ของกรมเป็นไปตามเป้าหมาย ซึ่งคาดว่าทั้งปีงบประมาณ 2566 นี้ จะสามารถเก็บรายได้รวมกว่า 8,900 ล้านบาท ตามเป้าหมายเอกสารงบประมาณ
“รายได้ช่วง 7 เดือน ที่เก็บได้ 7,500 ล้านบาทนั้น นอกจากการเก็บค่าเช่าที่แล้ว ส่วนหนึ่งเป็นรายได้ที่บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ต้องจ่ายค่าแรกเข้าในวันทำสัญญาสัมปทานท่อส่งน้ำภาคตะวันออก (อีอีซี) วงเงินรวม 1,450 ล้านบาท ขณะนี้จ่ายเกือบครบแล้ว เหลืออีกเพียง 170 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งจะจ่ายทันทีเมื่อการส่งมอบทรัพย์สินครบสมบูรณ์”
ส่วนความคืบหน้าเรื่องการส่งมอบท่อส่งน้ำภาคตะวันออกนั้น ขณะนี้กรมธนารักษ์ยังไม่สามารถส่งมอบท่อส่งน้ำภาคตะวันออก 2 เส้น คือ หนองปลาไหล-หนองค้อ และหนองค้อ-แหลมฉบับระยะที่ 2 ให้กับบริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด ผู้ชนะประมูล ได้อย่างสมบูรณ์ เนื่องจากติดเงื่อนไขการตรวจสอบทรัพย์สิน จากบริษัท จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์วอเตอร์ ทำให้ต้องเจรจาในรายละเอียดกันอีกรอบ
ทั้งนี้ หากการส่งมอบล่าช้า เกิดความเสียหาย ทางอีสท์วอเตอร์ต้องเป็นผู้รับผิดชอบความเสียหายจากความล่าช้าดังกล่าว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าอีสท์วอเตอร์กำลังเร่งดำเนินการส่งมอบทรัพย์สินอย่างแน่นอน
ขณะที่ท่อส่งน้ำเส้น ดอกกราย-มาบตพุด ขณะนี้ยังเหลือระยะเวลาอีก 6 เดือนจะสิ้นสุดสัญญาสัมปทานกับอีสท์วอเตอร์โดยสัญญาจะสิ้นสุดลงในวันที่ 31 ธ.ค.2566 นี้ กรมธนารักษ์ จึงได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสำรวจและตรวจสอบทรัพย์สิน เพื่อให้การส่งมอบทรัพย์สินทั้งหมดให้กับวงษ์สยามตามสัญญาที่มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.68 เป็นต้นไป