รมว.คลัง เร่งสรรพสามิต สรุปโครงสร้างภาษีบุหรี่

19 มิ.ย. 2566 | 03:50 น.
อัปเดตล่าสุด :19 มิ.ย. 2566 | 03:50 น.

รมว.คลัง เร่งสรรพสามิต สร้างความชัดเจนโครงสร้างภาษีบุหรี่อัตราเดียว หลังจากใช้ 2 อัตรามาเกือบ 2 ปี เน้นคำนึงการแข่งขันในตลาด ดูแลสุขภาพประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มอบหมายให้กรมสรรพสามิต ศึกษาทบทวนโครงสร้างและอัตราภาษีบุหรี่ทั้งในระยะปานกลางและระยะยาว เพื่อนำไปสู่การปรับโครงสร้างแบบอัตราเดียวที่เหมาะสมเป็นธรรม และคำนึงถึงการแข่งขันในตลาด และการดูแลสุขภาพของประชาชนด้วยนั้น 

ล่าสุด นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้เชิญผู้บริหารระดับสูงกรมสรรพสามิต ได้เข้าหารือถึงเรื่องดังกล่าว พร้อมสอบถามความคืบหน้าการศึกษา โดยนายอาคม ได้กำชับ ให้กรมสรรพสามิต เร่งศึกษาข้อดีและข้อเสียให้แล้วเสร็จ หลังจากโครงสร้างภาษีบุหรี่ได้ประกาศใช้มาแล้วเกือบ 2 ปีแล้ว 

สำหรับโครงสร้างภาษีบุหรี่สรรพสามิต ที่มีการจัดเก็บมาตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.2564  ดังนี้ 

1. อัตราภาษีบุหรี่ซิกาแรต จัดเก็บภาษีตามมูลค่า 25% ของราคาขายปลีกแนะนำ  ซองละไม่เกิน 72 บาท และ 42% ของราคาขายปลีกแนะนำ ที่เกินซองละ 72 บาท และจัดเก็บภาษี ตามปริมาณ 1.25 บาทต่อมวน 

2. อัตราภาษียาเส้นที่มีปริมาณการผลิตไม่เกิน 12,000 กิโลกรัมต่อปี จัดเก็บอัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.025 บาทต่อกรัม และยาเส้นที่มีปริมาณการผลิตเกิน 12,000 กิโลกรัม จัดเก็บ อัตราภาษีตามปริมาณที่ 0.10 บาทต่อกรัม โดยรายได้จากภาษียาสูบ เป็นรายได้อันดับที่ 5 ของกรมสรรพสามิต มีรายได้เฉลี่ยปีละ 60,000-64,000 ล้านบาท 

ส่วนปัญหาบุหรี่ไฟฟ้า ถึงแม้จะเป็นสินค้าห้ามนำเข้า  เป็นสินค้าผิดกฎหมาย แต่มีวางจำหน่ายทั่วไปทั้งออนไลน์และวางขายตามแหล่งบันเทิงทั่วประเทศนั้น   ถือเป็นปัญหาคาราคาซัง ที่ไม่มีข้อยุติ ว่าแก้ปัญหาอย่างไร เนื่องจากกระทรวงสาธารณสุข  ไม่ยินยอมที่จะให้กำหนดอัตราพิกัดภาษี ทำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำได้เพียงการปราบปรามตามกฎหมายเท่านั้น