เตือนอย่าตื่น! ปมปิด 4 แบงก์ไทยในสปป.ลาว เช็คข้อเท็จจริงที่นี่

27 ส.ค. 2566 | 14:35 น.
อัปเดตล่าสุด :27 ส.ค. 2566 | 14:39 น.

แบงก์ชาติลาว แจงข้อเท็จจริง ปมปิด 4 แบงก์ไทยใน สปป.ลาว แท้จริงปิดมาระยะหนึ่งแล้ว แต่เพิ่งแจ้ง ยันไร้เสี่ยง แค่การปรับกลยุทธ์ของแบงก์แม่ในไทยเพื่อ"ลดสาขา"

จากกระแสข่าวว่า ธนาคารไทย 4 แห่งที่เปิดทำการสาขาใน สปป.ลาว.ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย (ชื่อเดิม ก่อนควบรวมธนาคารธนชาต) สาขานครหลวงเวียงจันทน์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะหวันนะเขต, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สาขาเวียงจันทน์ และ ธนาคารกรุงเทพ สาขาปากเซ ได้ทำการยื่นขอปิดกิจการต่อสำนักงานคุ้มครองเงินฝากของสปป.ลาว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่าเกิดความเสี่ยงอะไรเกิดขึ้นต่อระบบการเงินหรือไม่นั้น

ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับทางสปป.ลาว ที่ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 สำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ สปป.ลาว ได้ออกหนังสือแจ้งการสิ้นสุดสมาชิกภาพของธนาคารธุรกิจต่างประเทศ 4 แห่ง จากการแจ้งเลิกกิจการ โดยทั้งหมดเป็นสาขาของธนาคารในประเทศไทย ประกอบด้วย 

 

  • ธนาคารทหารไทย สาขานครหลวงเวียงจันทน์ ได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกตามหนังสือแจ้งฉบับที่ 113 ลงวันที่ 12 พฤศจิกายน 2564 โดยเงินฝากของธนาคารจะถูกโอนไปให้ธนาคารร่วมพัฒนาเป็นผู้คุ้มครอง
     
  • ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะหวันนะเขต ได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกตามหนังสือแจ้งฉบับที่ 97 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2565 โดยเงินฝากของธนาคารจะถูกโอนไปให้ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขานครหลวงเวียงจันทน์ เป็นผู้คุ้มครอง
     
  • ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย สาขานครหลวงเวียงจันทน์ ได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกตามหนังสือแจ้งฉบับที่ 10 ลงวันที่ 4 กรกฎาคม 2566 โดยเงินฝากของธนาคารจะถูกโอนไปให้ธนาคารพัฒนาลาวเป็นผู้คุ้มครอง
     
  • ธนาคารกรุงเทพ สาขาปากเซ ได้สิ้นสุดการเป็นสมาชิกตามหนังสือแจ้งฉบับที่ 16 ลงวันที่ 9 สิงหาคม 2566 โดยเงินฝากของธนาคารจะถูกโอนไปให้ธนาคารกรุงเทพ สาขานครหลวงเวียงจันทน์ เป็นผู้คุ้มครอง

ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงเทพ ยืนยันว่า เป็นหนังสือแจ้งการปิดสาขาธนาคารไทยในสปป.ลาวในหลายปีที่ผ่านมา แต่สำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ สปป.ลาว เพิ่งออกหนังสือแจ้งการพ้นจากสมาชิกของธนาคารไทยทั้ง 4 แห่งรวมกันเป็นฉบับเดียว จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อประชาชนทั้งไทยและลาว

 

ล่าสุด ( 27 ส.ค.2566 ) ธนาคารแห่งสปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) ได้ออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้ว และยอมรับผิดเป็นการแจ้งข่าวสารที่ไม่ได้ระวังถึงผลกระทบที่มีความละเอียดอ่อนที่จะตามมาด้วย

ขณะที่หนังสือพิมพ์ลาวพัฒนาได้รายงานข่าวว่า ผู้บริหารของสำนักงานคุ้มครองเงินฝาก ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้ชี้แจงถึงการยกเลิกการเป็นสมาชิกสำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ 4 สาขาของธนาคารพาณิชย์จากประเทศไทย ดังนี้

  • สาขาของธนาคารพาณิชย์ทั้ง 4 แห่ง ได้ยื่นต่อธนาคารแห่ง สปป.ลาว ให้ยุติการดำเนินงานโดยสมัครใจในระหว่างปี 2562, 2563 และ 2565 ซึ่งธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้ตกลงในหลักการที่จะยุติการดำเนินงานในระหว่างปี 2563-2565
     
  • เหตุผลในการเสนอเลิกกิจการ เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ทางธุรกิจของสำนักงานใหญ่ในต่างประเทศ (ธนาคารแม่) ที่ต้องการลดจำนวนสาขา
  • การยินยอมให้สาขาธนาคารธุรกิจต่างประเทศเหล่านี้เลิกกิจการโดยสมัครใจนั้น ขึ้นอยู่กับว่าสาขาเหล่านี้สามารถชำระหนี้ได้เองโดยไม่กระทบต่อผู้ฝากเงิน
  • สำนักงานคุ้มครองเงินฝากออกประกาศภายหลังจากที่ธนาคารพาณิชย์ต่างประเทศทั้ง 4 สาขาได้ดำเนินการชำระบัญชีเสร็จสิ้นตามหลักเกณฑ์แล้ว