จากกระแสข่าวว่า ธนาคารไทย 4 แห่งที่เปิดทำการสาขาใน สปป.ลาว.ประกอบด้วย ธนาคารทหารไทย (ชื่อเดิม ก่อนควบรวมธนาคารธนชาต) สาขานครหลวงเวียงจันทน์, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาสะหวันนะเขต, ธนาคารซีไอเอ็มบีไทย สาขาเวียงจันทน์ และ ธนาคารกรุงเทพ สาขาปากเซ ได้ทำการยื่นขอปิดกิจการต่อสำนักงานคุ้มครองเงินฝากของสปป.ลาว ทำให้เกิดความตื่นตระหนกว่าเกิดความเสี่ยงอะไรเกิดขึ้นต่อระบบการเงินหรือไม่นั้น
ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับทางสปป.ลาว ที่ระบุว่า เมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2566 สำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ สปป.ลาว ได้ออกหนังสือแจ้งการสิ้นสุดสมาชิกภาพของธนาคารธุรกิจต่างประเทศ 4 แห่ง จากการแจ้งเลิกกิจการ โดยทั้งหมดเป็นสาขาของธนาคารในประเทศไทย ประกอบด้วย
ต่อเรื่องนี้ แหล่งข่าวจากธนาคารกรุงเทพ ยืนยันว่า เป็นหนังสือแจ้งการปิดสาขาธนาคารไทยในสปป.ลาวในหลายปีที่ผ่านมา แต่สำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ สปป.ลาว เพิ่งออกหนังสือแจ้งการพ้นจากสมาชิกของธนาคารไทยทั้ง 4 แห่งรวมกันเป็นฉบับเดียว จึงทำให้เกิดการเข้าใจผิดต่อประชาชนทั้งไทยและลาว
ล่าสุด ( 27 ส.ค.2566 ) ธนาคารแห่งสปป.ลาว (แบงก์ชาติลาว) ได้ออกแถลงการณ์ด่วนเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนแล้ว และยอมรับผิดเป็นการแจ้งข่าวสารที่ไม่ได้ระวังถึงผลกระทบที่มีความละเอียดอ่อนที่จะตามมาด้วย
ขณะที่หนังสือพิมพ์ลาวพัฒนาได้รายงานข่าวว่า ผู้บริหารของสำนักงานคุ้มครองเงินฝาก ธนาคารแห่ง สปป.ลาว ได้ชี้แจงถึงการยกเลิกการเป็นสมาชิกสำนักงานคุ้มครองเงินฝากของ 4 สาขาของธนาคารพาณิชย์จากประเทศไทย ดังนี้