นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือ แบงก์ชาติ เปิดเผยว่า ความเสี่ยงโลกยังมีต่อเนื่องความเสี่ยงใหม่ๆ รวมไปถึงปัญหาในตะวันออกกลาง ทำให้ประเมินได้ยาก เพราะผลค้างเคียงมีเยอะ มองการคาดการณ์ได้ยาก ซึ่งในเวทีโลกต่างมุ่งเน้นการดูแลเสถียรภาพเป็นหลัก อย่างการแนะนำของ กองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือ IMF อย่างการให้ความสำคัญเงินเฟ้อ โดยควบคุมเงินเฟ้อให้อยู่ในกรอบ ขณะที่ด้านการคลัง จะต้องพยายามสร้างกันชนด้านการคลัง ในการลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ และลดการขาดดุล เพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ที่มีความผันผวน
รวมทั้งความเสี่ยงที่เกิดขึ้นมีเพิ่มมากขึ้น ทั้งเศรษฐกิจจีนที่เติบโตช้า จากภาคอสังหาริมทรัพย์ที่ความเสี่ยง และเหตุความขัดแย้งระหว่างประเทศที่จะกระทบการค้าโลกอย่างไร ด้านความเป็นห่วงปัญหาประเทศตะวันออกกลาง ยอมรับว่าเป็นอะไรที่ประเมินผลกระทบความเสี่ยงยาก
เพราะมีผลข้างเคียงที่ยังประเมินผลไม่ได้ โดยตอนนี้เหตุการณ์ตะวันออกกลาง ยังประเมินผลกระทบไม่ได้ ซึ่งไม่ใช่แค่การค้า หรือการส่งออกที่ไปอิสราเอล รวมทั้งจะกระทบราคาน้ำมันผันผวน กังวลเงินเฟ้อพลิกกลับมาได้
อย่างไรก็ตามการทำนโยบายการเงินนั้น อัตราดอกเบี้ย เราไม่ต้องการให้สร้างความไม่แน่นอนให้ตลาด เห็นจากต่างประเทศจะหยุดไม่หยุดยังมีความไม่แน่นอน โดยมองว่าถ้าปล่อยเงินเฟ้อขึ้น ผลกระทบภาระคนจะกระทบเยอะกว่าภาระดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น จึงต้องพยายามดูแลเงินเฟ้อ แม้เกิดผลข้างเคียงต่างๆ แต่ต้องมีมาตรการช่วยเหลือต่อไป
"มีการส่งสัญญาณของตลาด และเครดิตเรตติ้งหลายแห่งบอก กังวลถ้าเสื่อมลงจะปรับลดเรตติ้งลง คล้ายกับของไอเอ็มเอฟ อยากเห็นการขาดดุลการคลังลดลง เรื่องเสถียรภาพมองระยะปานกลางมากขึ้น เป้าหมายหลักคือเศรษฐกิจฟื้นจากวิกฤติ ทำอย่างไรให้ยืดหยุ่นและฟื้นกลับมา มีความทนทานกับผลกระทบต่างๆ สามารถปรับเปลี่ยนปรับตัวได้ยืดหยุ่น" นายเศรษฐพุฒิ กล่าว