เทศกาลตรุษจีน ปี 2567 ที่จะมาถึง สถาบันการเงินต่างสำรองเงินสด เพื่อรองรับการใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชน รวมมากกว่า 1 แสนล้านบาท ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้
กรุงไทย สำรองเงินสด 30,310 ล้านบาท
ธนาคารกรุงไทย รายงานว่า กรุงไทยได้เตรียมสำรองเงินสด เพื่อรองรับการใช้จ่ายของลูกค้าและประชาชน ช่วงเทศกาลตรุษจีนปี 2567 ระหว่างวันที่ 7 – 12 กุมภาพันธ์ 2567 ทั้งการใช้บริการที่สาขาและเครื่อง ATM จำนวน 30,310 ล้านบาท
ทั้งนี้ แยกเป็นพื้นที่กทม.จำนวน 6,550 ล้านบาท และภูมิภาคจำนวน 23,760 ล้านบาท เป็นการสำรองสำหรับสาขา จำนวน 8,060 ล้านบาท และตู้ ATM จำนวน 22,250 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม เพื่อลดการสัมผัสเงินสด และลดความเสี่ยงจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ลูกค้าและประชาชนสามารถทำธุรกรรมผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ผ่านแอปพลิเคชัน Krungthai NEXT และแอปพลิเคชันเป๋าตัง ที่มีความสะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย สามารถทำธุรกรรมได้ตลอด 24 ชั่วโมง
ทีเอ็มบีธนชาต สำรองเงินสด 1.3 หมื่นล้านบาท
ธนาคารทีเอ็มบีธนชาต หรือ ทีทีบี เตรียมสำรองเงินสดในช่วงเทศกาลตรุษจีน ปี 2567 ระหว่างวันที่ 5 – 11 กุมภาพันธ์ 2567 เพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้าและประชาชน จำนวน 13,500 ล้านบาท
โดยแบ่งเป็นการสำรองที่สาขา จำนวน 4,000 ล้านบาท และตู้เอทีเอ็ม จำนวน 9,500 ล้านบาท
กรุงศรีสำรองเงินสด 1 หมื่นล้านบาท
ธนาคารกรุงศรี รายงานว่า ได้เตรียมสำรองเงินสดเพื่อรองรับการเบิกถอนเงินของลูกค้าและประชาชนทั่วไปผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม และสาขาของธนาคารทั่วประเทศ ในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2567 ระหว่างวันที่ 5 – 11 กุมภาพันธ์ 2567 (จำนวน 7 วัน) รวม 10,254 ล้านบาท
ทั้งนี้ แบ่งเป็นเงินสดสำรองสำหรับบริการผ่านเครื่องกรุงศรี เอทีเอ็ม จำนวน 6,207 ล้านบาท และช่องทางสาขาของธนาคารจำนวน 4,047 ล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสด 4 หมื่นล้านบาท
ธนาคารกรุงเทพ รายงานว่า สำรองเงินสดรับเทศกาลตรุษจีน ปี 67 จำนวน 40,000 ล้านบาท ผ่านสาขาธนาคาร และตู้บัวหลวงเอทีเอ็ม กว่า 8,000 จุดทั่วประเทศ รองรับการจับจ่ายซื้อของไหว้ ช้อปของขวัญ ใส่ซองอั่งเปา ส่งความสุขตรุษจีนปีมังกรทอง
ธนาคารไทยพาณิชย์ สำรองเงินสด 3.3 หมื่นล้านบาท
ธนาคารไทยพาณิชย์ รายงานว่า เนื่องในโอกาสเทศกาลตรุษจีนปี 2567 นี้ ธนาคารไทยพาณิชย์ได้เตรียมความพร้อมในการสำรองธนบัตรเพื่อรองรับการใช้บริการของลูกค้า จำนวน 33,900 ล้านบาท แบ่งเป็น ในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล 14,000 ล้านบาท และในเขตภูมิภาค 19,900 ล้านบาท แบ่งเป็นตู้เอทีเอ็ม 26,700 ล้านบาท และสาขา 7,200 ล้านบาท