วันนี้ (30 กรกฎาคม 2567) นางรัดเกล้า อินทวงศ์ สุวรรณคีรี รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) ดำเนินโครงการสินเชื่อ SME green productivity วงเงิน 15,000 ล้านบาท
ทั้งนี้เพื่อเป็นการสนับสนุนให้ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ เอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนต้นทุนต่ำและมีสภาพคล่องเพียงพอที่จะสามารถฟื้น ปรับปรุงกิจการ ขยายธุรกิจและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าและบริการ รวมถึงเปลี่ยนผ่านไปสู่อุตสาหกรรมสีเขียว และลดผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสิ่งแวดล้อมจากการดำเนินกิจกรรม
สำหรับโครงการสินเชื่อ SME green productivity มีวงเงินโครงการ 15,000 ล้านบาท วงเงินอนุมัติสินเชื่อสูงสุดต่อรายไม่เกิน 10 ล้านบาท อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-3 อัตรา 3% ต่อปี (รัฐบาลชดเชยอัตราดอกเบี้ยให้ ธพว. 3% ใน 3 ปีแรก) โดยปีที่ 4 เป็นต้นไปให้เป็นไปตามที่ ธพว. กำหนด โดยมีระยะเวลากู้สูงสุดไม่เกิน 10 ปี (ปลอดชำระเงินต้นสูงสุดไม่เกิน 1 ปี)
ทั้งนี้ผู้กู้สามารถใช้ประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อมค้ำประกันหรือใช้หลักทรัพย์ค้ำประกันตามที่ ธพว. กำหนด และมีระยะเวลาการดำเนินงานตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ โดยจะสิ้นสุดรับคำขอกู้ภายใน 30 ธันวาคม 2568 หรือจนกว่าวงเงินสินเชื่อร่วมในโครงการจะหมด
อย่างไรก็ตามที่ประชุมครม.ยังอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณชดเชยเพื่อดำเนินโครงการ โดยขอรับงบประมาณชดเชยเป็นระยะเวลา 3 ปี ในกรอบวงเงินงบประมาณ 1,350 ล้านบาท โดยมีความเห็นเพิ่มเติมบางประการ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทยเห็นว่า ธพว. ควรกำหนดกลุ่มเป้าหมายและคุณสมบัติของผู้ประกอบการ SME ที่ต้องการสนับสนุนสินเชื่อให้ชัดเจน รวมถึงมีกระบวนการติดตามการใช้สินเชื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์การกู้ยืม
ขณะที่สำนักงบประมาณ เห็นว่าสำหรับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้น เห็นควรให้ ธพว. จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอรับการสื่อสารงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามผลการดำเนินงานจริงตามขั้นตอนต่อไป เป็นต้น