นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ และพันธมิตร 14 หน่วยงาน ดำเนินโครงการส่งเสริมและสนับสนุนผู้ประกอบการสินค้าฮาลาลสู่การส่งออก เพื่อผลักดันไทยก้าวสู่การเป็นอาเซียน ฮาลาล ฮับ ภายในปี 2571
สำหรับปัจจุบันการค้าในตลาดเดิม อย่างจีน สหรัฐ ยุโรป หรือญี่ปุ่นโตเฉลี่ย 3% สวนทางกับกลุ่มตะวันออกกลาง อาเซียน เอเชียใต้ซึ่งเป็นตลาดหลักสินค้าฮาลาลเติบโตได้ 7% จึงเป็นโอกาสที่ผู้ประกอบการไทย ต้องปรับตัวเข้าเจาะตลาดให้ได้ เพราะขณะนี้ผู้ส่งออกไทยกว่า 30,000 ราย มีสินค้าฮาลาลเพียง 10% หรือไม่ถึง 3,000 ราย
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่เป็นการส่งออกอาหารและเครื่องดื่มถึง 60% ทั้งที่จริงยังมีสินค้าฮาลาลที่มีโอกาสอีกเยอะ เช่น ท่องเที่ยว เครื่องสำอาง และแฟชั่น โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนสินเชื่อ และประกันบริหารความเสี่ยงทางการค้าให้
นายรักษ์ กล่าวว่า ปีที่ผ่านมา EXIM BANK ปล่อยสินเชื่อสนับสนุนผู้ส่งออกฮาลาล 1,500 ล้านบาท ทำให้เกิดการส่งออกสินค้าฮาลาลได้ 5,000 ล้านบาท และมาปี 67 ตั้งใจขยายสินเชื่อสำหรับฮาลาลเพิ่มเป็น 2,000 ล้านบาท ช่วยให้เกิดการส่งออกสินค้าฮาลาลเกือบ 10,000 ล้านบาท
โดยมีสินเชื่อ อาทิ
นายทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย หรือไอแบงก์ กล่าวว่า ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา การเติบโตการใช้จ่ายผู้บริโภคในตลาดฮาลาลเพิ่มขึ้นกว่า 40% จาก 1.62 ล้านล้านดอลลาร์ ไปถึง 2.29 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งการเติบโตนี้เกิดจากแรงผลักดันของการขยายประชากรมุสลิมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกว่า 2,000 ล้านคนทั่วโลก และความร่วมมือของทั้ง 2 ธนาคารครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนแหล่งเงินทุนฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำ ถึงปลายน้ำ
ทั้งนี้ ไอแบงก์ ได้ออกสินเชื่อ อิกไนท์ ฮาลาล สนับสนุนสภาพคล่องแก่ธุรกิจฮาลาล ทั้งกลุ่มท่องเที่ยว การแพทย์และสุขภาพ และกลุ่มธุรกิจอาหาร หวังผลักดันธุรกิจเอสเอ็มอี ที่ไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน ให้สามารถเข้าแหล่งเงินทุนฮาลาล วงเงินสินเชื่อ 1-5 ล้านบาท ผ่อนสูงสุด 7 ปี ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน และสำหรับลูกค้าในพื้นที่ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ส่วนลดค่าผ่อนเพียง 50%