นายฉัตรชัย ศิริไล ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร(ธ.ก.ส.)เปิดเผยว่า จังหวัดชุมพรถือเป็นแหล่งเพาะปลูกกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้ามากที่สุดในประเทศไทย เนื่องจากมีสภาพภูมิศาสตร์และอากาศที่เหมาะสม ซึ่งธ.ก.ส. พร้อมยกระดับผู้ประกอบการกาแฟกว่า 21 เครือข่ายในจังหวัดชุมพร ด้วยการชูกาแฟโรบัสต้าของดีจังหวัดชุมพร มาสร้างมาตรฐานในทุกขั้นตอน
ทั้งนี้ ได้ดำเนินการรวบรวม การทำ Packaging การแปรรูป และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่มีมูลค่าสูง โดยเชื่อมโยงกับเครือข่ายด้านการวิจัยและเทคโนโลยีมาเติมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการในการปรับเปลี่ยนการผลิตให้ได้มาตรฐาน รวมถึงบริหารจัดการช่องทางการตลาด
อาทิ การจำหน่ายสินค้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ หรือการนำลูกค้าไปศึกษาดูงานผ่านโครงการต่างๆ อันเป็นการเพิ่มโอกาสทางการตลาดและช่องทางการจำหน่าย
สำหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ เป็นหนึ่งในผู้นำด้านการผลิตกาแฟโรบัสต้าในจังหวัดชุมพรที่มีกระบวนการผลิตที่พิถีพิถันทุกขั้นตอน ตั้งแต่การคัดเลือกสายพันธุ์กาแฟ การเก็บผลผลิต การตาก การสี และการคั่ว โดยใช้เวลาในการบ่มไว้กว่า 1 ปี ทำให้เมล็ดกาแฟของถ้ำสิงห์มีรสชาติเข้มข้น กลิ่นหอม และไม่มีรสเปรี้ยว
นอกจากนี้ ยังมีการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาใช้ในกระบวนการผลิตกาแฟ เช่น การใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการตากกาแฟ การใช้เครื่องจักรในการคั่วเมล็ดกาแฟ และการแปรรูปเป็นกาแฟรูปแบบต่างๆ ทำให้กาแฟถ้ำสิงห์เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามมาตรฐานสากล ไม่ว่าจะเป็นกาแฟดริป กาแฟสำเร็จรูป กาแฟกระป๋องพร้อมทาน หรือ ลูกอมกาแฟ
โดยทางวิสาหกิจชุมชนฯ มีการจำหน่ายเมล็ดกาแฟไปยังเครือข่ายชุมชนกาแฟในจังหวัดชุมพรและจังหวัดอื่นๆ ทั่วประเทศ ผ่านทางออฟไลน์และออนไลน์ และมีการเปิดสาขาร้านกาแฟถ้ำสิงห์อีกกว่า 6 สาขาในจังหวัดชุมพร และเตรียมขยายสาขาไปยังพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงในเร็วๆ นี้
ทั้งนี้ธ.ก.ส.ได้ให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์ในด้านเงินทุนสำหรับต่อยอดและหมุนเวียนธุรกิจ รวมถึงมีการสนับสนุนช่องทางการตลาด ด้วยการให้พื้นที่ด้านหน้าสหกรณ์การเกษตรเพื่อการตลาดลูกค้าธ.ก.ส. ชุมพร (สกต. ชุมพร) ในการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ การรับรองมาตรฐาน A-Product ให้แก่ผลิตภัณฑ์กาแฟถ้ำสิงห์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค เช่น กาแฟลุงไข่ กาแฟโรบัสต้าของขึ้นชื่อจังหวัดชุมพร
“กาแฟลุงไข่ สืบทอดเคล็ดลับจากรุ่นสู่รุ่นภายใต้แนวคิด “อยากปลูกกาแฟคุณภาพดีไว้กินเองและส่งต่อให้ผู้บริโภคได้ดื่มกาแฟคุณภาพดี”
โดยได้พัฒนากาแฟโรบัสต้าตั้งแต่การคัดสายพันธุ์ การปลูกแบบอินทรีย์ การดูแลรักษา จนถึงกระบวนการผลิต ที่มีคุณภาพมาตรฐานจนได้รับรางวัลสุดยอดกาแฟไทย ประจำปี 2564 การันตีรสชาติเข้มข้น กลิ่นเป็นเอกลักษณ์ ทำให้ลูกค้าต้องกลับมาซื้อซ้ำ
นายฉัตรชัยกล่าวว่า กาแฟลุงไข่ได้มีการจัดจำหน่ายผลผลิตให้กับผู้ประกอบการและผู้ผลิตกาแฟแบรนด์สำเร็จรูปชั้นนำมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศ นอกจากนี้ กาแฟลุงไข่ยังจัดทำ แบรนด์เฉพาะให้แก่ผู้ที่สนใจที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ที่ไม่เหมือนใคร
ในการนี้ กาแฟลุงไข่ ยังจัดทำแบรนด์หอมละมุนบายคุณฉัตรโดย ธ.ก.ส. และในอนาคต จะสนับสนุนให้กาแฟลุงไข่ รับออเดอร์จากลูกค้าทั่วไป เพื่อให้มีรูปของตัวเองบนซองกาแฟด้วย
“ธ.ก.ส.ได้เข้าไปสนับสนุนผู้ประกอบการทั้งมิติของเงินทุนผ่านโครงการสินเชื่อต่างๆ และการส่งเสริมองค์ความรู้ด้านการตลาด การการันตีคุณภาพภายใต้มาตรฐาน A-Product การเปิดพื้นที่จัดจำหน่ายผ่านช่องทางทั้งโมเดิร์นเทรด ศูนย์จำหน่ายสินค้าของหน่วยงานภาครัฐและเอกชน เป็นต้น”
ทั้งนี้ ธ.ก.ส. ยังมีนโยบายในการจัดทำฐานข้อมูล (Database) ที่มีการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ความต้องการตลาดและกลุ่มเป้าหมาย เพื่อนำมาใช้ในการวางแผน คิดค้น และพัฒนาผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร รวมถึงการบริหารจัดการการผลิตที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคต่างๆ ได้อย่างตรงจุด
ควบคู่กับการต่อยอดสินค้าให้ได้มาตรฐานสากล เพื่อขยายฐานไปสู่ตลาดที่มีกำลังซื้อสูง รวมถึงการเติมเงินทุนให้เกษตรกรในอัตราดอกเบี้ยผ่อนปรนผ่านสินเชื่อที่หลากหลาย เช่น สินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย สินเชื่อแทนคุณ และสินเชื่อ BCG เป็นต้น
ท้งนี้ชุมพรเป็นจังหวัดที่มีทัศนียภาพที่งดงาม ทั้งทะเล ภูเขา ป่าไม้ และมีผลไม้หลากหลายชนิด ซึ่ง ธ.ก.ส. มีนโยบายสนับสนุนผ่านโครงการท่องเที่ยวเชิงเกษตร (BAAC Agro-Tourism) โดยนำจุดเด่นของชุมชนมาพัฒนา ต่อยอด และวางแนวทางการบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการนักท่องเที่ยว พร้อมเชื่อมโยงเครือข่ายท่องเที่ยวให้เข้มแข็ง เพื่อสร้างโอกาส สร้างงาน และสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชนอย่างยั่งยืน
สำหรับวิสาหกิจชุมชนกลุ่มกาแฟบ้านถ้ำสิงห์มีสถานที่ท่องเที่ยวเชิงเกษตร ได้แก่ ผาตาอู๊ด ถ้ำสิงห์ ที่สามารถเปิดประสบการณ์ให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสธรรมชาติและวิถีชุมชน เช่น การกางเต็นท์ ชมทะเลหมอกที่จุดชมวิวเขาถ้ำศิลางู เป็นต้น โดยนักท่องเที่ยวยังสามารถเข้ามาเยี่ยมชมไร่กาแฟ พร้อมชมกระบวนการผลิตและชิมกาแฟโรบัสต้าที่ดีที่สุดได้อย่างเต็มที่
“ธ.ก.ส. ตั้งเป้าสร้างฐานชุมชนท่องเที่ยวทั่วประเทศ สะสม 97 ชุมชน พัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงเกษตร 12 เส้นทาง และพัฒนาเครือข่ายท่องเที่ยวมากกว่า 290 ชุมชน โดยคาดหวังว่าจะสามารถดึงนักท่องเที่ยวได้กว่า 200,000 ราย และสร้างรายได้ให้กับชุมชนท่องเที่ยวสะสมกว่า 50 ล้านบาท”