หลังจากที่ประชุมคณะกรรมการคัดเลือกประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ที่มี “นายสถิตย์ ลิ่มพงศ์พันธุ์” เป็นประธานสรรหา
ได้สรุปผลการประชุมคัดเลือกที่ใช้เวลายาวนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยมีมติเป็นเอกฉันท์เลือก "นายกิตติรัตน์ ณ ระนอง" ขึ้นดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติคนที่ 5 จากการเสนอชื่อของกระทรวงการคลัง
สำหรับตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิอีก 2 ตำแหน่ง คณะกรรมการได้คัดเลือก "นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์" อดีตปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นอดีตลูกหม้อกระทรวงการคลัง และ "นางชุณหจิต สังข์ใหม่" อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ได้รับการเสนอชื่อจาก ธปท.
ทั้งนี้ นับตั้งแต่การประกาศใช้ พ.ร.บ. ธนาคารแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2551 ได้มีผู้ดำรงตำแหน่งประธานบอร์ดแบงก์ชาติมาแล้ว 4 ท่าน ได้แก่ ม.ร.ว.จัตุมงคล โสณกุล, ดร.วีรพงษ์ รามางกูร, นายอำพน กิตติอำพน และนายปรเมธี วิมลศิริ โดยนายกิตติรัตน์จะเข้ามาดำรงตำแหน่งเป็นลำดับที่ 5
ทั้งนี้ ในส่วนของ นายพงษ์ภาณุ และนางชุณหจิต เป็น 2 คนเลือกที่เข้าไปแทน นายนนทิกร กาญจนะจิตราและนายมนัส แจ่มเวหา ที่หมดวาระ
ทั้งนี้ ขั้นตอนต่อไปสำหรับตำแหน่งประธานกรรมการ จะต้องเสนอชื่อต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเพื่อนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ก่อนนำความขึ้นกราบบังคมทูลเพื่อทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ส่วนตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะเสนอให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังพิจารณาแต่งตั้งต่อไป
เกิดเมื่อวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2501 จบการศึกษาที่โรงเรียนอัสสัมชัญและเตรียมอุดมศึกษา ระดับปริญญาตรีที่คณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทจากสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์
จุดเปลี่ยนสำคัญในชีวิตการทำงานของกิตติรัตน์คือการก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย และเป็นกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ระหว่างปี 2549-2551 ซึ่งเป็นช่วงที่มีการปฏิรูปกฎระเบียบด้านตลาดทุนครั้งสำคัญ
ปี 2554 ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญเมื่อกิตติรัตน์ก้าวเข้าสู่การเมืองในฐานะรองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก่อนจะย้ายมาดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ในช่วงนี้เขาต้องเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งวิกฤตน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 และการบริหารนโยบายเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น โครงการรับจำนำข้าว
จบการศึกษาด้านเศรษฐศาสตร์จากสถาบันการศึกษาชั้นนำในสามประเทศ เริ่มจากปริญญาตรีที่ University of Auckland ประเทศนิวซีแลนด์ ต่อด้วยปริญญาโทจาก Northwestern University สหรัฐอเมริกา และปริญญาเอกจาก Hiroshima University of Economics ประเทศญี่ปุ่น
การทำงานในกระทรวงการคลังของพงษ์ภาณุโดดเด่นด้วยการดำรงตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่ง ได้แก่ ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ (2549-2551) อธิบดีกรมบัญชีกลาง (2552-2553) อธิบดีกรมสรรพสามิต (2553-2554)
ในปี 2558-2561 พงษ์ภาณุได้รับการแต่งตั้งเป็นปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งเป็นช่วงที่การท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างก้าวกระโดด การบริหารงานในช่วงนี้ได้นำความเชี่ยวชาญด้านการคลังมาประยุกต์ใช้กับการพัฒนาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
หลังเกษียณจากราชการ พงษ์ภาณุได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งสำคัญในภาคเอกชน อาทิ ประธานกรรมการ บริษัท อรสิริน โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการ บริษัท ดีวี 8 จำกัด (มหาชน) ประธานกรรมการ บริษัท ทีวีดี โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) กรรมการในบริษัทจดทะเบียนชั้นนำอื่นๆ
นอกจากนี้ ยังดำรงตำแหน่งประธานกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) สะท้อนบทบาทในการขับเคลื่อนนโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ
มีความเชี่ยวชาญด้านการบริหารการคลังและการพัฒนาระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ก่อนได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธนาคารแห่งประเทศไทย
ได้รับการศึกษาที่ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ และเทคโนโลยีสารสนเทศ ปริญญาตรี เศรษฐศาสตรบัณฑิต (สาขาการเงิน) มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ปริญญาโท บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Postgraduate Diploma in Information Management จาก University of Strathclyde ประเทศอังกฤษ
ประสบการณ์การทำงานในกระทรวงการคลังของชุณหจิตครอบคลุมหลายตำแหน่งสำคัญในกรมบัญชีกลาง ได้แก่ รองอธิบดี ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ผู้อำนวยการสำนักพัฒนามาตรฐานระบบพัสดุภาครัฐ และยังเคยเป็นรองปลัดกระทรวงการคลัง และผู้ตรวจราชการกระทรวง
นอกจากงานราชการ ชุณหจิตยังมีบทบาทสำคัญในการกำกับดูแลองค์กรต่างๆ อาทิ กรรมการการรถไฟแห่งประเทศไทย กรรมการบริษัททริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด กรรมการบริษัทยูไนเต็ด ไทย ชิปปิ้ง จำกัด
ตลอดเส้นทางอาชีพ ชุณหจิตได้พัฒนาความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ทั้งการพัฒนาระบบการเงินการคลังภาครัฐ การปรับปรุงระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ การกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ การบริหารการเงินการคลังภาครัฐ และการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศด้านการคลัง