“การลงทุนในหุ้นนั้นเรียบง่ายแต่ไม่ง่าย” การลงทุนให้ประสบความสำเร็จนอกจากจะต้องเรียนรู้การวิเคราะห์หุ้น หาจุดเข้าจุดออกแล้ว ยังจำเป็นต้องฝืนอารมณ์ของมนุษย์ เช่น
ราคาหุ้นในระยะสั้นมีปัจจัยมากระทบมากมาย ไม่ว่าจะเป็น FED ปรับดอกเบี้ย การประกาศตัวเลขทางเศรษฐกิจ ข่าวร้ายต่างๆ ที่กระทบความกังวลของคนในตลาด หรือแม้ราคาหุ้นในระยะยาวจะสะท้อนกำไรของบริษัท แต่ตัวบริษัทเองก็มีปัจจัยไม่คาดฝันเช่นกัน เช่น COVID-19 ที่เป็นวิกฤตระดับโลกจนทำให้บางบริษัทที่ผลประกอบการดีมาตลอดต้องมาขาดทุนหรืออาจจะต้องปิดตัวลงไปเลย
สำหรับนักลงทุนมือใหม่ประสบการณ์น้อยที่กำลังหาแนวทางการลงทุนของตัวเอง จะเป็นนักลงทุนที่อยู่ในช่วงลองผิดลองถูกมักจะโฟกัสไปที่ผลลัพธ์ระยะสั้น เช่นไปศึกษาวิธีซื้อขายหุ้นจากหนังสือเล่มหนึ่งแล้วเอามาทำตาม เมื่อซื้อครั้งแรกแล้วกำไรก็จะรู้สึกว่าวิธีนี้สุดยอดมาก หรือเมื่อขาดทุนสัก 2-3 ครั้งก็จะเริ่มหาวิธีใหม่ วนเวียนเปลี่ยนหนังสือเปลี่ยนวิธีเปลี่ยนโค้ชไปเรื่อยๆ
แล้วเราจะแก้ปัญหาเรื่องนี้อย่างไร เราจะทำยังไงให้เราลงทุนแล้วได้กำไรจริงๆ ทางแก้ของเรื่องนี้มี 2 ทาง ทางแรกคือ วัดผลให้เยอะมากพอ อ้างอิงจากหนังสือ Trading in the Zone เราจำเป็นต้องวัดผลอย่างน้อย 20 เทรดขึ้นไป
นั้นคือสมมติเราไปศึกษาจนตกผลึกเป็นวิธีการลงทุนในแบบฉบับของเรา เราก็ต้องลงทุนโดยยึดมั่นกับวิธีนี้ไป 20 ครั้ง แล้วดูโดยรวมว่ากำไรหรือขาดทุนอย่างไรโดยห้ามดูแยกเป็นรายตัว แต่วิธีนี้ก็มีข้อเสียหนึ่งอย่างคือ ถ้าเป็นการลงทุนที่มีระยะเวลานานเช่นการลงทุนด้วยปัจจัยพื้นฐานในบางครั้งที่ต้องถือหุ้น 1-3 ปีเพื่อให้ราคาสะท้อนการเติบโตของบริษัท กว่าจะรู้ว่าวิธีการลงทุนใช้ได้หรือไม่ได้ก็อาจจะผ่านไปหลายปีแล้ว
ทำให้มาสู่ทางที่สองคือศึกษาวิธีของคนที่สำเร็จมาก่อน โดยสิ่งที่เราต้องทำ คือหาคนที่ประสบความสำเร็จจริงๆ แล้วโฟกัสไปที่กระบวนการการลงทุนอย่างถี่ยิบ เค้าซื้อเลือกหุ้นจากอะไร เค้าวิเคราะห์หุ้นอย่างไร เค้าซื้อหุ้นเพราะอะไร เค้าขายหุ้นเพราะอะไร กิจวัตรประจำวันของเค้าคืออะไร แนวคิดเบื้องหลังของเค้าคืออะไร ถ้ามีเหตุการณ์แบบนี้มา ทำไมเค้าถึงตัดสินใจแบบนี้
ดังนั้นหน้าที่ของเรา คือ
การลงทุนในหุ้นนั้นเรียบง่ายแต่ไม่ง่าย แต่ถ้าเรามีกระบวนการลงทุนที่ถูกต้องที่เหมาะสม การลงทุนก็จะกลายเป็นสิ่งเรียบง่ายและง่าย