จากกรณีการเทขายหุ้นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 2 รายของบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART มีมูลค่ารวม 1,459 ล้านบาท กว่า 54 ล้านหุ้น โดยเป็นการขายให้กับสถาบัน ทำเอานักลงทุนวิตกกังวล และปิดตลาดแดนลบเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา
ขณะที่เปิดตลาดเช้าวันนี้หุ้นกลุ่ม JMART ปรับฟื้นตัวขึ้น เมื่อเวลา 10.01 น.
JMART เพิ่มขึ้น 1.50 บาท บวก 5.50% มาที่ 28.75 บาท มูลค่าซื้อขาย 207.81 ล้านบาท
JMT เพิ่มขึ้น 0.25 บาท บวก 0.55% มาที่ 46.00 บาท มูลค่าซื้อขาย 436.24 ล้านบาท
SINGER เพิ่มขึ้น 0.30 บาท บวก 1.73.% มาที่ 17.60 บาท มูลค่าซื้อขาย 219.12 ล้านบาท
SGC เพิ่มขึ้น 0.06 บาท บวก 1.67% มาที่ 3.66 บาท มูลค่าซื้อขาย 347.25 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ยูโอบี เคย์เฮียน ระบุว่า ราคาหุ้นกลุ่ม JMART ปรับตัวขึ้น หลังจากปรับตัวลงไปค่อนข้างมาก ทำให้เข้าโซนซื้อ ดันราคาฟื้นตัวขึ้น จากก่อนหน้านี้ราคาร่วงลงไปโดยที่ตลาดยังไม่ทราบสาเหตุ แต่ทางผู้บริหารก็ได้ออกมาชี้แจงว่าโดนเรียกให้วางหลักประกันเพิ่ม (Margin Call) จริง จึงได้มีการขายหุ้น Big Lot ให้กองทุน 54 ล้านหุ้น ซึ่งสามารถระดมทุนได้กว่า 1,000 ล้านบาท
โดยประเด็นดังกล่าวน่าจะเพียงพอต่อการรองรับ ไม่ให้ถูกบังคับขายต่อเนื่อง ทั้งนี้มองระยะสั้นมีโอกาสฟื้นตัวในทางเทคนิค หลังร่วงแรง เน้นเก็งกำไร
ขณะที่ บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) เปิดตลาด 10.01น.ปรับตัวลดลง 0.16 บาท ปรับตัวลดลง 4.44% มาอยู่ที่ 3.44 บาท ก่อนพลิกกลับขึ้นแดนบวกเมื่อเวลา 11.51น. ที่ราคา 3.66 บาท ปรับขึ้น 0.06 บาท บวก 1.67% มูลค่าการซื้อขาย 347.25 ล้านบาท
โดยคาดว่ามีสาเหตุมาจากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างผู้บริหาร และผลงานของธุรกิจการเงินในปี 66 ยังมีปัญหาหนี้เสีย
ทั้งนี้บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC) เป็นบริษัทย่อยของ บมจ.ซิงเกอร์ประเทศไทย (SINGER) ที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อเดือน ธ.ค. 65 ด้วยราคา IPO ที่ 3.90 บาท
SGC เป็นผู้ให้บริการทางการเงินที่มิใช่สถาบันการเงิน
ประกอบธุรกิจให้บริการ ประกอบด้วย
นอกจากนี้ที่ผ่านมาทาง SGC แจ้งกำไรปี 65 เท่ากับ 667.24 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่กำไร 593.03 ล้านบาท