ฝายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ (บล.)เอเซียพลัส หรือ ASPS ระบุว่า กระทรวงพาณิชย์ รายงานดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไป (CPI) เดือน มี.ค.+2.83% YoY (ต่ำกว่าตลาดคาดที่ +3.25%YoY และเดือนก่อนหน้า +3.79%) อยู่ในระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือน
โดยหลักๆ ลดลงจากราคาราคาน้ำมันเชื้อเพลิง สินค้ากลุ่มอาหารสด (เช่น เนื้อหมู นำมันพืช) และของใช้ส่วนตัว (เช่น สบู่ ยาสีฟัน) ส่วนดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐาน (Core CPI) +1.75%YoY ต่ำกว่าตลาดคาด +1.8%YoY และเดือนก่อนหน้า +1.93% เช่นกัน
รวมทั้งแนวโน้มไตรมาส 2/66 เงินเฟ้อไทย มีแนวโน้มชะลอตัวตามราคาสินค้าหลายรายการ บวกกับฐานราคาปี 2565 ที่อยู่ในระดับสูง และกำลังในการซื้อของประชาชน อาจลดลงหลังดอกเบี้ยสูงขึ้น รวมถึงการส่งออกไทยชะลอตัว ทำให้กระทรวงพาณิชย์ปรับลดคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อเฉลี่ยปี 2566 อยู่ที่ 2.2% หรือในกรอบที่ 1.7 - 2.7% ( เดิม 2.0- 3.0%)
ฝ่ายวิจัยฯ ประเมินเงินเฟ้อที่เข้าสู่กรอบเป้าหมายบนของ ธปท.ที่ 3% ภายในไตรมาส1/66 ซึ่งเร็วกว่าคาด บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยในปัจจุบัน (ดอกเบี้ย 1.75% - เงินเฟ้อ 2.83%) ติดลบน้อยลงมาอยู่ที่ 1.08% และยังดูดีกว่าหลายประเทศ อาทิ อังกฤษ (-6.15%), ยุโรป (-3.4%), ฟิลิปปินส์ (-1.35%) เป็นต้น เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ กนง.ยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ ซึ่งตามกลไกช่วยหนุนให้ SET Index ซื้อขายบน P/E ที่สูงขึ้น ดังนั้นดัชนีที่ต่ำกว่า 1600 จุด ถือเป็นจังหวะในการสะสมหุ้นพื้นฐาน
กลยุทธ์การลงทุน ในสถานการณ์ที่เงินเฟ้อไทยอ่อนตัวลงต่อเนื่องตามราคาพลังงานและกลุ่มสินค้าอาหารสดเป็นหลัก พร้อมกันนี้เงินเฟ้อเดือน มี.ค. ที่เข้าสู่กรอบเป้าหมายบน 3% ของ ธปท.ได้เร็ว
กว่าคาด บวกกับอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงของไทยปัจจุบันติดลบน้อยลง เชื่อว่าจะเป็นปัจจัยหนุนให้ กนง. ยุติวงจรการขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้ แนะนำหุ้นเด่นรับเงินฟ้อชะลอตัว ได้แก่