SINGER-SGC ราคาหุ้นลง เหตุกังวลปัญหาการดำเนินธุรกิจ

02 พ.ค. 2566 | 05:07 น.
อัปเดตล่าสุด :02 พ.ค. 2566 | 05:11 น.

SINGER-SGC ราคาหุ้นปรับตัวลง หลังนักลงทุนมีความกังวลปัญหาในการดำเนินธุรกิจ จากแนวโน้ม NPL อาจรุนแรงกว่าที่คาด โบรกฯ แนะจาก "ถือ" เป็น "ขาย" หั่นราคาเป้าหมายปี 66 เหลือ 11.60 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 11.45 น. ราคาหุ้น SINGER ปรับตัวลดลง 2.11% มาอยู่ที่ 13.90 บาท ลดลง 0.30 บาท มูลค่าซื้อขาย 81.01 ล้านบาท

SINGER-SGC ราคาหุ้นลง เหตุกังวลปัญหาการดำเนินธุรกิจ

ขณะที่หุ้น SGC ลดลง 5.56% มาอยู่ที่ 2.38 บาท ลดลง 0.14 บาท มูลค่าซื้อขาย 26.57 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์  ว่า บริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) SINGER เป็นลบมากขึ้น หลังจากที่หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ "NPL" เพิ่มขึ้นอย่างมากในไตรมาสที่แล้ว

รวมทั้งการที่ผู้บริหารลาออกแสดงถึงปัญหา NPL อาจจะรุนแรงกว่าที่คาดเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงปรับเพิ่มสมมติฐาน credit cost และปรับลดสมมติฐานอัตราการเติบโตของสินเชื่อ

ดังนั้นจึงปรับลดประมาณการกำไรปี 66-67 ลง 53% และ 28% รวมถึงปรับลดราคาเป้าหมายปี 66 เหลือ 11.60 บาท และลดคำแนะนำจาก "ถือ" เป็น "ขาย"

นอกจากนี้ทาง SINGER ยังได้แจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ว่า "นายกิตติพงศ์ กนกวิไลรัตน์" ได้ลาออกจากตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) และบริษัทได้แต่งตั้ง "นายนราธิป วิรุฬห์ชาตะพันธ์" (CEO ของ J-Mobile) เป็น CEO คนใหม่ของ SINGER

โดยนายกิตติพงศ์ ถือเป็นผู้บริหารสำคัญที่นำพา SINGER พลิกฟื้นสถานการณ์จากขาดทุนเป็นการฟื้นตัว สถานการณ์นี้ดูไม่ปกติ เพราะ SINGER กำลังเผชิญกับปัญหา NPL ก้อนใหญ่จากธุรกิจสินเชื่อลิสซิ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ดำเนินการจากบริษัทลูก คือ บมจ.เอสจี แคปปิตอล (SGC)

ดังนั้น การลาออกของผู้บริหารคนสำคัญจึงเป็นสัญญาณลบต่อแนวโน้มผลประกอบการในระยะสั้น และทำให้เกิดความกังวลต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาว

อย่างไรก็ตามแนวโน้มการเติบโตน่าเป็นห่วง SINGER ถูกวางกลยุทธ์ให้เป็นช่องทางหลักในการจัดจำหน่ายสินค้าให้กับ J-Mobile โดยยอดขายในปี 65 ของ SINGER เกือบ 1 พันล้านบาท (หรือประมาณ 36% ของยอดขายรวม)

ซึ่งเป็นการขายสินค้า IT ที่มากจาก J-Mobile นอกจากนี้ JMART (ผู้ถือหุ้นใหญ่ของ SINGER) ก็พยายามจะผลักดันให้ SINGER เป็นกลไกหลักสำหรับธุรกิจการปล่อยขยายสินเชื่อผู้บริโภคบนฐานลูกค้าของ BRR

โดยการเปลี่ยนตัวผู้บริหารรอบล่าสุดนี้อาจจะเป็นสิ่งที่บ่งบอกว่าธุรกิจในอนาคตของ SINGER จะเน้นไปหาสินค้า IT จาก J-Mobile ซึ่งอาจจะทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงที่สินค้าจะกระจุกตัว และความเสี่ยงด้านการตั้งสำรองเพราะการปล่อยกู้เพื่อซื้อสินค้า IT มีอัตราการผิดนัดชำระหนี้สูง

ทั้งนี้ NPL เกิดใหม่จำนวนมาก และมีการเปลี่ยนตัวผู้บริหาร จึงคิดว่า SINGER น่าจะต้องใช้เวลาสักระยะในการล้างงบดุล และฟื้นความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อแนวโน้มการเติบโตในอนาคต