บริษัทหลักทรัพย์ (บล.) กสิกรไทย หรือ KS ระบุว่ามีมุมมองเชิงลบเล็กน้อยต่อตลาดหุ้นไทย คาดว่าตลาดจะเคลื่อนไหวในกรอบแคบๆ ในช่วงเดือน มิ.ย.-ก.ค.2566 เนื่องจากนักลงทุนชะลอการลงทุนตามความไม่แน่นอนทางการเมือง/การคลัง และความกังวลเกี่ยวกับนโยบายเศรษฐกิจของพรรคก้าวไกล โดยมี 3 สถานการณ์ทางการเมืองที่อาจเป็นไปได้ในการขับเคลื่อนตลาดหลังจากนี้
1.กรณีปกติของเรา (ความน่าจะเป็น 50%) คือรัฐบาลผสมที่นำโดยพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทย ขณะที่นโยบายเศษฐกิจผสมจากทั้ง 2 พรรคมุ่งเน้นที่การเติบโตมากกว่าความเท่าเทียมกันของรายได้ ภายใต้สถานการณ์นี้ เป้า SET Index ของเรา คือ 1,666 จุด อิงจากกำไรต่อหุ้น (EPS) ปี 2567 ที่ 107 บาท และ PER ล่วงหน้า 12 เดือนที่ 15.60 เท่า (+0.5SD)
2.กรณีที่ดีที่สุด (25%) น่าจะเป็นรัฐบาลผสมที่นำโดยพรคเพื่อไทย ซึ่งมีนโยบายที่เป็นมิตรกับตลาดหุ้นไทยในการสนับสนุนการเติบโตทางเศษฐกิจมาก และ
3.กรณีที่เลวร้ายมาก (25%) คือรัฐบาลผสมนำโดยพรรคก้าวไกลซึ่งมีนโยบายที่ไม่เป็นมิตรกับตลาด (เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ อัตราภาษีนิติบุคคลที่สูงขึ้น ภาษีความมั่งคั่ง ภาษีมูลค่าที่ดิน ภาษีกำไรจากการขายหุ้นการทลายทุนผูกขาด และการลดด้านสิทธิประโยชน์จากบีโอไอ
ขึ้นค่าแรง 450 บาท-อัตราภาษี 3% กระทบกำไรตลาด ?
ขณะที่การวิเคราะห์ความอ่อนไหวของเราพบว่าการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 10% และการเพิ่มอัตราภาษี 3% จะทำให้กำไร ของตลาดปี 2567 ลดลง 1.0% และ 2.5% ตามลำดับ
ปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญของตลาดหุ้นไทยในเดือน มิ.ย.2566 ได้แก่
ด้านปัจจัยเสียงสำคัญในเดือน มิ.ย.2566 ได้แก่
หุ้น top picks
บล.กสิกรไทย แนะนำการลงทุนในเดือนมิ.ย.ใน 4 ธีมหุ้น ได้แก่