ตลท. ปรับเกณฑ์รับหุ้นหนุนธุรกิจ "BCG Model" เริ่ม 6 มิ.ย. 66

02 มิ.ย. 2566 | 22:15 น.

ตลท. ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน หนุนการเข้าจดทะเบียนของบริษัท เน้นการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมภายใต้โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน "BCG Model"

ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน เพื่อสนับสนุนการเข้าจดทะเบียนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจ ในอุตสาหกรรมที่เน้นการใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรม ภายใต้โมเดลเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน "BCG Model"

ซึ่งมีการขยายให้ครอบคลุมถึงบริษัทขนาดกลาง และบริษัทต่างประเทศ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการเติบโต ให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ

ในการสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางสำหรับกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีการพัฒนาทางเทคโนโลยีและนวัตกรรม โดยจะเริ่มใช้หลักเกณฑ์ดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 6 มิ.ย. 66 นี้

นายภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ระบุว่า การปรับปรุงหลักเกณฑ์การรับหุ้นสามัญ เพื่อเป็นการสนับสนุนการเข้าจดทะเบียนของบริษัทที่ประกอบธุรกิจในสอดคล้องกับ BCG Model โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องเป็นบริษัทที่มีรายได้จากการประกอบธุรกิจใน 10  กลุ่มอุตสาหกรรมที่กำหนด

ตลท. ปรับเกณฑ์รับหุ้นหนุนธุรกิจ \"BCG Model\" เริ่ม 6 มิ.ย. 66

กลุ่ม 10 อุตสาหกรรม ประกอบด้วย

  1. การเกษตรและอาหารขั้นสูง
  2. เชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ
  3. การต่อยอดทางการแพทย์และสุขภาพ
  4. การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์
  5. ยานยนต์สมัยใหม่
  6. การบินและโลจิสติกส์
  7. ดิจิทัลและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์
  8. อิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ
  9. หุ่นยนต์
  10. การพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรม

สำหรับการปรับหลักเกณฑ์ครั้งนี้เพื่อให้ธุรกิจที่กำหนดไว้ สามารถเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai ด้วยเกณฑ์มูลค่าหุ้นสามัญตามราคาตลาด (Market Capitalization Test) เปิดช่องทางในการสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งระดมทุนในตลาดทุน

อย่างไรก็ตาทการปรับปรุงหลักเกณฑ์ในครั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจที่สอดคล้องกับนโยบายภาครัฐดังกล่าวข้างต้น ซึ่งมี Market Capitalization ไม่น้อยกว่า 7,500 ล้านบาทสำหรับ SET หรือ 2,000 ล้านบาทสำหรับ mai และมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่กำหนด

สามารถยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนใน SET และ mai ได้ โดยมีการกำหนดเกณฑ์การเปิดเผยข้อมูลเพิ่มเติม ซึ่งทาง ตลท. จะกำหนดแนวทางในการพิจารณากลั่นกรองบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมที่กำหนด เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจรับหุ้นสามัญเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนต่อไป